วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ติวสอบกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกเสาร์ -อาทิตย์ เริ่ม 22 เมษายน 60 - สอบ

ติวสอบกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น   –  สอบเน้นแบบชัวร์ทุก          เสาร์–อาทิตย์  เริ่มตั้งแต่ วันที่ 22  เมย.  2560 

สถานที่: โรงเรียนกวดวิชาและภาษาไดเอ็ดจังหวัดมหาสารคาม
โดย ดร.ภักดี รัตนมุขย์ และทีมติวสอบสถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ดมหาสารคาม  084-2616667, 043-721822 E-mail : dr.pukdee@hotmail.com, pakdee277@gmail.com(รับไม่เกิน 15 คน )
ติวสอบกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นภาค ก  ขถึง วันสอบ (เน้นผลลัพธ์)
ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เริ่มติวตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2560
สถานที่โรงเรียนกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด จังหวัดมหาสารคาม
กำหนดการอบรม( วันเสาร์ )
08.00 08.30 . ลงทะเบียนรับหนังสือและเอกสาร
เริ่มติววิชาความสามารถทั่วไป(ทำแบบฝึกหัด  เฉลย วิเคราะห์  อธิบายข้อสอบ เนื้อหาตามแบบทดสอบ)
  - ความสามารถทางด้านคิดคำนวณ  ตัวเลข สรุปเหตุผลเกี่ยวกับตัวเลข
  - ความสามารถด้านภาษาไทยความเข้าใจ จับใจความ  สรุปความ ตีความ ขยายความ เรียงข้อความ สะกดคำ แต่งประโยคและคำศัพท์
  - ความสามารถด้านเหตุผล  คิดสรุปหาเหตุผล   อุปมาอุปไมย  ตรรกวิทยา  ความสามารถทางด้านเหตุผล
12.00-13.00.  พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00-16.-30 .  ( ติววิชาความสามารถทั่วไป ต่อ )
กำหนดการอบรมวันที่สอง ( วันอาทิตย์ )
08.30-16.30 . ความรอบรู้ (ทำแบบฝึกหัด เฉลยวิเคราะห์ อธิบายข้อสอบเนื้อหาตามแบบทดสอบ)
  -สังคม เศรษฐกิจ การเมือง  และเหตุการณ์ปัจจุบัน
  - ความรู้พื้นฐานในการปฎิบัติราชการ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
  -พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2535 และแก้ไขถึงปัจจุบัน (เฉลย วิเคราะห์  อธิบายข้อสอบ  เนื้อหาตามแบบทดสอบ )
  -พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน
  -พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ..2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน
12.00-13.00.  พักรับประทานอาหารกลางวัน  
13.00 -16.30 . ( ติววิชากฎหมาย ต่อ )                                                                                                  -พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน
  - พระราชบัญญัติระเบียบบริหารเมืองพัทยา พ.. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน
  - พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. พ.. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน
  - พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.. 2542
  - พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน
  - ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526
  - แนวข้อสอบภาค ข
หมายเหตุ กำหนดการการอบรมนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
@วิทยากรและวิธีการอบรมฯ
วิทยากร : โดย ทีมงานวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิของ สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ดมหาสารคาม
นำโดย  ดร. ภักดี   รัตนมุขย์
วิธีการอบรม:
: ทำแบบฝึกหัด วิเคราะห์ ( เจาะลึก ) ข้อสอบ/พร้อมหลักการ เทคนิคในเลือกคำตอบ
: อธิบายเนื้อหาและสรุปสาระสำคัญของข้อสอบข้อนั้นและเรื่องที่เกี่ยวข้อง
: วิธีนำเสนอ ( Presentation) โดยการบรรยายประกอบ หนังสือ เอกสาร และพาวเวอร์พอยส์
@ค่าใช้จ่าย
-ค่าลงทะเบียน ท่านละ  3,800 บาท ( สามพันแปดร้อยบาทถ้วน )
-เป็นค่าหนังสือ สื่อเอกสารฯ) ดังนี้
1. หนังสือสรุปเนื้อหา +แนวข้อสอบ เล่ม 1 , 2  จำนวน  2  เล่ม 
2.เอกสารสรุปการบรรยาย
3.แบบฝึกหัด แนวข้อสอบทุกวิชา
@การชำระค่าลงทะเบียน
-ชำระค่าลงทะเบียนในวันแรกของการอบรมฯ
-จะรับผู้เข้าอบรมในจำนวนจำกัดไม่เกิน 15 คน ( ไม่รับสำรองที่นั่ง )
 มัดจำล่วงหน้า 500บาท  โดยชำระเงินผ่านบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเภทออมทรัพย์  สาขามหาสารคาม เลขที่บัญชี  608-269894-8  ชื่อบัญชี นางสาวทักษพร  รัตนมุขย์ ชำระเงินแล้วโทร.แจ้ง 084-2616667,043-721822 หรือแจ้งทางอีเมล์อีกครั้งว่าโอนเงินแล้ว ระบุวันที่ เวลา ยอดเงินที่โอน   E-mail : pakdee 277 @ gmail.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ดมหาสารคาม : โทร.,084- 2616667, 043-721822e-mail : pakdee277@gmail.com

























วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แนวข้อสอบเตรียมสอบครูผู้ช่วย ความรอบรู้ สพฐ. กทม. เทศบาล อบจ. อบต. อาชีวฯ ชุดที่ 3




แนวข้อสอบพรบ.กฎหมายการศึกษาที่ใช้สอบครูผ้ช่วยทุกหน่วยราชการชุดที่ 3                           1. กรรมการใน กคศ.ข้อใดที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน
ก. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ข. มีวุฒิการศึกษา
ค. มีประสบการณ์ ง. ความซื่อสัตย์ ยุติธรรม
2. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของ กคศ.
ก. เสนอแนะและให้คําปรึกษาแก่ ครม.
ข. กำหนดจํานวนและอัตราตําแหน่ง
ค. การเสริมสร้างขวัญกำลังใจ และการยกย่องเชิดชูเกียรติ
ง. รับรองคุณวุฒิของผู้ได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ
3. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของ กคศ.
ก. พิจารณาตั้ง อกคศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ข. จัดทําทะเบียนประวัติและแก้ไขทะเบียนประวัติ
ค. ควบคุมการเกษียณอายุของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. ยับยั้งการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม
4. ข้อใดไม่อํานาจหน้าที่ของสํานักงาน กคศ.
ก. วิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ข. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติตาม พรบ.ฉบับนี้
ค. พัฒนาระบบข้อมูล
ง. กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม
5. ประธานอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ใครเป็นคนแต่งตั้ง
ก. ประธาน กคศ. ข. ผอ.สพท.
ค. เลือกกันเอง  ง. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
6. ใครเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.โดยตําแหน่ง
ก. ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษา ข. ผู้แทน กคศ.

ค. ผอ.สพท.        ง.คุรุสภา                                                 
7. อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีจํานวนทั้งหมดมีกี่คน

ก. 12 คน ข. 4 คน
ค. 5 คน ง. 9 คน

8. คุณสมบัติของ อกคศ.เขตพื้นที่การศึกษาข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
ข. ผู้แทนข้าราชการครูต้องมีวิทยฐานะไม่ตํ่ากว่าครูชํานาญการ
ค. ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่นต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรี
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิ และ ผู้แทน กคศ. ต้องเป็นข้าราชการครู
9. อํานาจหน้าที่ของ อกคศ.เขตพื้นทีการศึกษา ข้อใดสําคัญที่สุด
ก. กำหนดจํานวน อัตราตําแหน่ง และเกลี่ยอัตรากำลังให้สอดคล้องกับนโยบายระเบียบ
ข. ให้ความเห็นชอบการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ค. ให้ความเห็นชอบการพิจารณาความดีความชอบของผู้บริหาร ข้าราชการครู
ง. พิจารณาดําเนินการทางวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์
10. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ก. ยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ข. กำกับ ดูแลติดตามและประเมินผลการบริหารงานบุคคล
ค. จัดทําและพัฒนาฐานข้อมูล
ง. จัดทํามาตรฐานคุณภาพงาน
11. อํานาจหน้าที่ของ ผอ.สพท.ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. เสนอแนะการบรรจุและแต่งตั้งและการบริหารงานบุคคล
ข. พิจารณาความดีความชอบของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา
ค. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนา การเสริมสร้างขวัญกำลังใจ
ง. จัดทําแผนและส่งเสริมการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากร

12. อํานาจหน้าที่ของผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ข้อใดถูกต้อง
ก. กำหนดนโยบายการบริหารงานบุคคล
ข. จัดทํามาตรฐานคุณภาพงาน กาหนดภาระงานขั้นตํ่า
ค. ปกป้องระบบคุณธรรม
ง. การจัดสวัสดิการ
13. อํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถานศึกษา ข้อใดสําคัญที่สุด
ก. กำกับดูแลการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา
ข. เสนอความต้องการจํานวนและอัตราตําแหน่ง
ค. ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ง. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการพัฒนา
14. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษา
ก. ควบคุมดูแลให้การบริหารงานบุคคล
ข. พิจารณาความดีความชอบของข้าราชการครูและบุคลากรในสถานศึกษา
ค. จัดทํามาตรฐาน ภาระงานขั้นต่ำสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. ประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐาน
15. การดําเนินการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูให้ยึดหลักการข้อใดสําคัญที่สุด
ก. หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ข. ระบบคุณธรรม
ค. ความเสมอภาคระหว่างบุคคล
ง. การได้รับการปฏิบัติและคุ้มครองสิทธิอยางเสมอภาคเท่าเทียมกัน
16. การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกรณีใดที่ไม่ได้กำหนดไว้
ก. ถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ภาษา ข. เพศ อายุ สุขภาพ สถานภาพของบุคคล
ค. ฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาอบรม ง. ความคิดเห็นทางการเมือง
17. คุณสมบัติทัวไปของผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาข้อใด 

ถูกต้อง
ก. มีสัญชาติไทย   
ข. มีอายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี
ค. เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น ง. ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

18. คุณสมบัติทั่วไปข้อใด ที่สามารถเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้
ก. ถูกสั่งพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ข. ถูกลงโทษจําคุกเพราะความผิดที่ได้กระทําโดยประมาท
ค. เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี
ง. เป็นบุคคลล้มละลาย
19. ข้อใดไม่ใช่ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ก. ตําแหน่งผู้สอน ข. ตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา
ค. ตําแหน่งผู้บริหารการศึกษา ง. ตําแหน่งศึกษานิเทศก์
20. ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ก. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ตําแหน่งผู้ช่วยครู ข. ตําแหน่งครู
ค. ตําแหน่งอาจารย์ ง. ตําแหน่งศาสตราจารย์
21. ตําแหน่งครูและบุคลากรทางการศึกษาข้อใดจะให้มีในหน่วยงานการศึกษาใดก็ได้
ก. ตําแหน่งครู ข. ตําแหน่งอาจารย์
ค. ตําแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ง. ตําแหน่งศาสตราจารย์
22. ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ข. ตําแหน่งใดให้มีใน
สถานศึกษาและหน่วยงานการศึกษาตามประกาศกระทรวง
ก. รองผู้อํานวยการสถานศึกษา ข. รอง ผอ.สพท.
ค. ศึกษานิเทศก์ ง. รองอธิการบดี
23. ตําแหน่งใดต่อไปนี้เรียกชื่อที่มีวิทยฐานะไม่ถูกต้อง
ก. ครูชํานาญการพิเศษ
ข. รองผู้อํานวยการสถานศึกษาชํานาญการ

ค. รองผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชี่ยวชาญ
ง. ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ
24.ตําแหน่งใดต่อไปนี้ที่ไม่มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
ก. ครู ข. ศึกษานิเทศก์
ค. ผอ.สถานศึกษา ง. รอง ผอ.สถานศึกษา
25. ให้ กคศ.จัดทํามาตรฐานตําแหน่ง มาตรฐานวิทยฐานะ คํานึงถึงข้อใดเป็นอันดับแรก
ก. มาตรฐานวิชาชีพ
ข. คุณวุฒิการศึกษา การอบรม
ค. ประสบการณ์ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน
ง. คุณภาพการปฏิบัติงานหรือผลงาน
26. กรณีต้องบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความชํานาญ เชี่ยวชาญระดับสูง ข้อใด
ถูกต้อง
ก. บรรจุและแต่งตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้
ข. อาจคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งโดยวิธีอื่นก็ได้
ค. มีเหตุผลและความจําเป็นอยางยิ่งเพื่อประโยชน์แก่ราชการ ขอความเห็นชอบจาก อกคศ.เขต เพื่อ
ขออนุมัติ กคศ.
ง. เพื่อประโยชน์แก่ราชการ
27. การบรรจุและแต่งตั้ง ผู้อํานวยการเชี่ยวชาญพิเศษ ข้อใดทําได้ถูกต้อง
ก. ได้รับอนุมัติ กคศ.แล้ว เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้ง รมต.เสนอ นายกรัฐมนตรีเพื่อกราบบังคม
ทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้ง
ข. เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้งโดย กคศ.เห็นชอบ
ค. รมต.เจ้าสังกัดบรรจุแต่งตั้ง โดยได้รับอนุมัติจาก กคศ.
ง. อนุมัติ กคศ.แล้ว ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของส่วนราชการบรรจุโดย รมต.เจ้าสังกัดเสนอ
นายกรัฐมนตรีเพื่อนํากราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้ง

28. การบรรจุและแต่งตั้ง รอง ผอ.สพท. เป็นอํานาจของใคร
ก. ผอ.สพท.โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ข. อ.ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง
ค. เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ ก.ค.ศ.
ง. ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้ง
29. การบรรจุและแต่งตั้ง ครูผู้ช่วย ครู และบุคลากรทางการศึกษาอื่นในสถานศึกษา ใครมีอํานาจ
บรรจุแต่งตั้ง
ก. อ.ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง
ข. ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นทีการศึกษา
ค. ผอ.สถานศึกษา บรรจุแต่งตั้งโดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นทีการศึกษา
ง. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติแล้ว ผอ.สถานศึกษาบรรจุแต่งตั้ง
30. ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อํานวยการสถานศึกษา ใครบรรจุแต่งตั้ง
ก. อ.ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง
ข. ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ค. ผอ.สถานศึกษา บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ง. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติแล้ว ผอ.สถานศึกษาบรรจุแต่งตั้ง
31. คณะกรรมการสรรหาผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีทั้งหมดกี่คน
ก. จํานวน 5 คน ข. จํานวน 6 คน
ค. จํานวน 7 คน ง. จํานวน 8 คน
32. ใครเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ผอ.สพท.
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ง. เลขาธิการ กพฐ.
33. ใครไม่ได้เป็นคณะกรรมการสรรหา ผอ.สพท
ก. เลขาธิการสภาการศึกษา

ข. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ค. เลขาธิการคุรุสภา
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
34. การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะใด เลื่อนเป็นวิทยฐานะใด ต้อง
เป็นไปตามมาตรฐานวิทยฐานะซึ่งผานการประเมินองค์ประกอบใดไม่ได้กำหนดไว้
ก. ความประพฤติด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
ข. ประสบการณ์ คุณภาพการปฏิบัติงาน ความชํานาญ ความเชี่ยวชาญ
ค. ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ในด้านการเรียนการสอน
ง. ผลงานทางวิชาการ
35. ให้มีการประเมินตําแหน่งและวิทยฐานะสําหรับตําแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็น
ระยะๆกรณีที่ผู้ใดไม่ผ่านการประเมิน มาตรการข้อใดไม่ได้กำหนดไว้
ก. การพัฒนา ข. การเลื่อนขั้นเงินเดือน
ค. การสั่งให้ออกจากราชการ ง. การพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
36. ผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตําแหน่งครูผู้ช่วย ให้ดําเนินการอย่างไร
ก. ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี
ข. เตรียมความพร้อมในตําแหน่งครูผู้ช่วยเป็นเวลา 1 ปี
ค. ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นเวลา 2 ปี
ง. เตรียมความพร้อมและพัฒนาอยางเข้มเป็นเวลา 2 ปี
37. ในระหว่าง  เตรียมความพร้อม มีผลการประเมินตํ่ากว่าเกณฑ์ กคศ  .กำหนด ต้องให้ครบกำหนดปี
หรือไม่และดําเนินการอย่างไร
ก. ไม่ต้องครบกำหนดให้สั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการได้
ข. ต้องให้ครบกำหนดเวลาเตรียมความพร้อมก่อน จึงสั่งให้ออกจากราชการได้
ค. ไม่ต้องครบ แต่ให้เตรียมความพร้อมใหม่
ง. ต้องให้ครบกำหนดแต่ให้แต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

38. การโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นและข้าราชการอื่นมาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู ต้อง
คํานึงถึงข้อใด
ก. เจ้าตัวสมัครใจที่จะโอน
ข. ผู้มีอํานาจที่ประสงค์จะรับโอนทําความตกลงกับผู้บังคับบัญชาเดิม
ค. ความรู้ความสามารถ
ง. ประโยชน์ที่หน่วยงานการศึกษานั้นจะได้รับ
39. การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้อใดเป็นเงื่อนไขประกอบการพิจารณาของ อ.
ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ก. ต้องได้รับความเห็นชอบจาก อกคศ.เขตพื้นที่ของผู้ขอย้ายและผู้รับย้าย
ข. ให้มีการประสานงานระหวาง อกคศ. เขตพื้นที่การศึกษา
ค. ให้สถานศึกษาโดยคณะกรรมการสถานศึกษาเสนอความเห็นประกอบ
ง. ให้คณะกรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ
40. หลักการให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งไม่เกิน 4 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี ให้ ก.ค.ศ.ดําเนินการกับ
ตําแหน่งใด
ก. ตําแหน่งที่กำหนดมิได้กำหนดให้มีวิทยฐานะ
ข. ตําแหน่งที่มีลักษณะบริหารตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด
ค. ตําแหน่ง ผอ.สพท.
ง. ตําแหน่ง ผอ.สพท.และตําแหน่งที่มีลักษณะบริหาร
41. ตามมาตรา 68 ถ้าตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาว่างลงหรือผู้ดํารงตําแหน่งไม่
สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ การที่ผู้มีอํานาจสั่งให้ข้าราชการครูอื่นไปแทน ข้อใดถูกต้อง
ก. รักษาราชการแทน ข. ปฏิบัติหน้าที่แทน
ค. รักษาการในตําแหน่ง ง. ทําการแทน
42. ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงาน หลักการตามข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. การปฏิบัติตนเหมาะสม

ข. ปฏิบัติราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
ค. มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
ง. คํานึงถึงปริมาณและคุณภาพของงาน
43. บําเหน็จความชอบ ไม่รวมถึงข้อใด
ก. บันทึกคําชมเชย ข. รางวัล
ค. เครื่องเชิดชูเกียรติ ง. การเลื่อนตําแหน่ง
44. การเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้ง
คณะกรรมการขึ้นพิจารณาโดยยึดหลักตามข้อใดเป็นอันดับแรก
ก. หลักคุณธรรม มีความเที่ยงธรรม
ข. เปิดเผยโปร่งใสและผลการปฏิบัติงาน
ค. ความประพฤติในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ง. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
45. ในการเลื่อนขั้นเงินเดือน ให้พิจารณาจากข้อใดเป็นพิเศษ
ก. หลักคุณธรรม มีความเที่ยงธรรม
ข. เปิดเผยโปร่งใสและผลการปฏิบัติงาน
ค. ความประพฤติในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ง. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
46. กคศ.กาหนดขั้นเงินเดือนประสิทธิภาพ กำหนดไว้สําหรับตําแหน่งใด
ก. ตําแหน่งที่มีวิทยฐานะ ข. ผู้ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์
ค. ผู้ทีได้รับการยกยองเชิดชูเกียรติ ง. ตําแหน่งที่มีวิทยพัฒน์
47. ก่อนมอบหมายหน้าที่ให้ผู้บังคับบัญชาดําเนินการแจ้งข้อใดไม่ใช่
ก. ภาระงาน มาตรฐานคุณภาพงาน มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพ
ข. เกณฑ์การประเมินผลงาน ระเบียบแบบแผนหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติราชการ
ค. บทบาทหน้าที่ของข้าราชการในฐานะพลเมืองดี

ง. สมรรถนะหลักและสมรรถนะประจําสายงาน
48. ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาตามข้อใดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ก. ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดี
ข. พัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
ค. ส่งเสริมสนับสนุนให้ไปศึกษา ฝึ กอบรมดูงาน
ง. อนุญาตให้ลาไปศึกษาโดยได้รับเงินเดือนระหว่างลา
49. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีสิทธิได้เลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษา
ฝึกอบรม/วิจัยกรณีใดบ้าง
ก. มีความจําเป็น หรือเป็นความต้องการของหน่วยงาน
ข. เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาหรือวิชาชีพ
ค. คุณวุฒิขาดแคลน
ง. ถูกทุกข้อ
50. ข้อใดไม่ใช่การรักษาวินัย
ก. สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ข. ความซื่อสัตย์สุจริตเสมอภาคและเที่ยงธรรม
ค. ส่งบุคลากรเข้ารับการพัฒนาระเบียบวินัยของข้าราชการ
ง. การอุทิศเวลาให้แก่ทางราชการ
51. ในกรณีที่เห็นว่าการปฏิบัติตามคําสั่งของผู้บังคับบัญชาจะทําให้เสียหายแก่ราชการ จะเสนอ
ความคิดเห็นเป็นหนังสือเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคําสั่งภายในกี่วัน
ก. ภายใน 3 วัน ข. ภายใน 7 วัน
ค. ภายใน 15 วัน ง. ภายใน 30 วัน
52. ข้อใดไม่ใช่ความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ่
ก. การละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลา  15 วันขึ้นไป
ข. การซื้อขาย/ให้ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง/วิทยฐานะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ค. คัดลอก/ลอกเลียนผลงานของผู้อื่น/รับจัดทําผลงานทางวิชาการ
ง. เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการซื้อสิทธิขายเสียงในการเลือกตั้ง
53. ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ในการพัฒนาวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชา ตามข้อใด
ก. เสริมสร้างและพัฒนา ข. ป้องกัน
ค. ดําเนินการทางวินัย ง. ถูกทุกข้อ
54. ข้อใดเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้อยูใต้บังคับบัญชาให้มีวินัยในสถานการณ์ปัจจุบัน
ก. ปฏิบัติตนเป็นแบบอยางที่ดี  ข. การฝึกอบรม
ค. การเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ง. การจูงใจ การพัฒนา
55. การป้องกัน มิให้ผู้อยูใต้บังคับบัญชากระทําผิดวินัย ยกเว้นกรณีใด
ก. การเอาใจใส่ ข. การสังเกตการณ์
ค. การขจัดเหตุที่อาจก่อให้เกิดการทําผิดวินัย ง. การดําเนินการทางวินัย
56. ข้อใดไม่ใช่โทษทางวินัย
ก. ทัณฑ์บน ข. ตัดเงินเดือน
ค. ลดขั้นเงินเดือน ง. ไล่ออก
57. ข้อใดเป็นโทษทางวินัยอยางร้ายแรง
ก. ให้ออก ข. ปลดออก
ค. ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ง. ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน
58. การดําเนินการทางวินัยซึ่งมีกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัย ให้ทํา  ตามข้อใดเป็ น
อันดับแรก
ก. แจ้งข้อกล่าวหา ข. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ค. สรุปพยานหลักฐานให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ ง. ดําเนินการทางวินัยทันที
59. กรณีมีความเห็นขัดแย้งในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนระหว่างผู้มีอํานาจต่างเขตพื้นที
การศึกษาใครเป็นผู้มีอํานาจวินิจฉัยชี้ขาด
ก. ผอ.สพท. ข. เลขาธิการ กพฐ.

ค. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ง. ก.ค.ศ.
60. การลงโทษภาคทัณฑ์ให้ใช้ในกรณีใด
ก. การทําผิดวินัยเล็กน้อย ข. มีเหตุอันควรลดหย่อน
ค. ไม่ถึงกับจะต้องถูกลงโทษตัดเงินเดือน ง. ถูกทุกข้อ
61. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญลงมา กระทําผิดวินัยอย่าง
ร้ายแรงต้องเสนอใครพิจารณา
ก. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ข. ก.ค.ศ.พิจารณา
ค. ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุ ง. ผอ.สพท.
62. การดําเนินการทางวินัยไม่ร้ายแรงของผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ ผอ.สพท.ลงมา ให้รายงานถึงข้อใด
ก. ผอ.สพท. ข. อกคศ.เขตพื่นที่การศึกษา
ค. กคศ. ง. เลขาธิการ กพฐ.
63. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประสงค์จะลาออกจากราชการ ต้องขอลาออกไม่น้อย
กวากี่วัน
ก. 90 วัน ข. 30 วัน
ค. 60 วัน ง. 15 วัน
64. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และ
หน่วยงานการศึกษาของผู้นั้นมีตําแหน่งว่าง  /ตําแหน่งอื่นทีไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่
ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าผู้นั้นมีความเหมาะสมที่จะได้รับการบรรจุแต่งตั้ง หน่วยงานการศึกษาจะต้อง
ได้รับแจ้งหนังสือเพิกถอนใบอนุญาตภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
65. กรณีที่หน่วยงานนั้นไม่มีตําแหน่งว่าง หรือตําแหน่งที่สามารถย้ายไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งได้
และอกคศ.เขตพื้นที่/กคศ.ไม่อนุมัติ จะมีผลตามข้อใด
ก. ดํารงตําแหน่งเดิมไปก่อน

ข. ขออุทธรณ์
ค. ไปช่วยราชการหน่วยงานอื่นชั่วคราว
ง. สั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการ

66. กรณีใดต่อไปนี้ไม่มีสิทธิอุทธรณ์
ก. ถูกลงโทษภาคทัณฑ์
ข. ถูกให้ออกจากราชการ
ค. ถูกปลดออกจากราชการ ง. ถูกไล่ออกจากราชการ

67. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ให้ดําเนินการภายในกี่วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําสั่ง
ก. ภายใน 15 วัน ข. ภายใน 30 วัน
ค. ภายใน 60 วัน ง. ภายใน 90 วัน
68. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์แตกต่างกันในข้อใด
ก. เหตุแห่งความผิด ข. ลักษณะแห่งความผิด
ค. องค์กรพิจารณาให้ความเป็นธรรม ง. อายุความ
69. การร้องทุกข์กรณีใดไม่สามารถทําได้
ก. ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ข. มีความคับข้องใจเนื่องจากการกระทําของผู้บังคับบัญชา
ค. การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
ง. การถูกลงโทษางวินัย
70. เมื่อ อกคศ.เขตพื้นที่ หรือ กคศ.ได้วินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์แล้ว ผู้ใด้เห็นว่าตนไม่ได้รับ
ความเป็นธรรมหรือมีกรณีที่มิได้บัญญัติให้มีสิทธิอุทธรณ์/ร้องทุกข์ ผู้นั้นมีสิทธิดําเนินการตามข้อ
ใดได้อีก
ก. ขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี ข. ขอความเป็นธรรมจากคณะรัฐมนตรี
ค. ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ง. ฟ้อง ปปช.
71. ใครมีอํานาจปรับปรุงเงินเดือน เงินวิทยฐานะเงินประจําตําแหน่ง เงินเพิ่มค่าครองชีพ สวัสดิการ
และประโยชน์เกื้อกูลสําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ก. ก.ค.ศ. ข. ค.ร.ม.
ค. นายกรัฐมนตรี ง. รมต.ศธ.
72. ตําแหน่งใดต่อไปนี้ได้รับเงินวิทยฐานะแตกต่างจากกลุ่มอื่น
ก. ตําแหน่งครู ข. ตําแหน่งศึกษานิเทศก์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา ง. ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นทีการศึกษา
73. พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษามีผลใช้บังคับตามข้อใด
ก. 6 กรกฎาคม 2547 ข. 7 กรกฎาคม 2547
ค. 8 กรกฎาคม 2547 ง. 9 กรกฎาคม 2547
74. การจัดระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ข้อใดมิใช่
ก. การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
ข. การจัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นทีการศึกษา
ค. การจัดระเบียบบริหารราชการสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคล
ง. การจัดระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
75. ใครมีหน้าที่รักษาการตาม พรบ.นี้
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
76. ส่วนราชการตามข้อใดมิได้เป็นนิติบุคคล
ก. สํานักงานรัฐมนตรี ข. สํานักงานปลัดกระทรวง
ค. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ง. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั%นพื%นฐาน
76. การแบ่งส่วนราชการในสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั%นพื%นฐานดําเนินการตามข้อใด
ก. ประกาศกระทรวง ข. ออกเป็ นกฎกระทรวง
ค. ออกเป็ นพระราชกฤษฎีกา ง. ระเบียบ

77. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีจํานวนเท่าใด
ก. จํานวน 26 คน ข. ไม่เกิน 26 คน
ค. จํานวน 27 คน ง. ไม่เกิน 27 คน
78. การประกาศกำหนดเขตพื้นที่การศึกษาข้อใดถูกต้อง
ก. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของ กพฐ.
ค. รัฐมนตรีโดยคําแนะนําของสภาการศึกษา
ง. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการโดยความเห็นชอบของ ค.ร.ม.
79. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเกิดขึ้นตามข้อใด
ก. มาตรา 37 ข. มาตรา 38
ค. มาตรา 39 ง. มาตรา 40
80. พรบ.นี้ใครเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ก. ประธานวุฒิสภา ข. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ค. นายกรัฐมนตรี ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
81. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาในวันใด
ก. วันที่3 กรกฎาคม 2546 ข. วันที่ 4 กรกฎาคม 2546
ค. วันที่ 7 กรกฎาคม 2546 ง. วันที่ 6 กรกฏาคม 2546
82. พรบ.บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการมีทั้งหมดกี่หมวดกี่มาตรา
ก. 5 หมวด 72 มาตรา ข. 5 หมวด 82 มาตรา
ค. 5 หมวด 92 มาตรา ง. 5 หมวด 102 มาตรา
83. ข้อใดไม่ใช่หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรง
ก. สํานักงานเลขานุการรัฐมนตรี ข. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ค. สํานักงานปลัดกระทรวง ง. สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา

84. การจัดระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
ข. ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
85. การกำหนดตําแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้คํานึงถึง
องค์ประกอบต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. คุณวุฒิ มาตรฐานวิชาชีพ ข. ประสบการณ์ คุณภาพของงาน
ค. ปริมาณและสภาพของงาน ง. ลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบ
86. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการไม่มีอํานาจในเรื่องใด
ก. ออกกฎกระทรวง ข. ออกระเบียบ
ค. ออกพระราชกฤษฎีกา ง. ออกประกาศกระทรวง
87. การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการข้อใดถูกต้อง
ก. สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือสํานักบริหารงาน
ข. สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการและส่วนราชการขึ้นตรงต่อ รมต.ศธ.
ค. สํานักงานปลัดกระทรวง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ง. สํานักงานปลัดกระทรวง สพฐ. สกอ.สอศ. สกศ. และ กคศ.
88. ข้อใดไม่ใช่ส่วนราชการในส่วนราชการส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ
ก. สํานักงานรัฐมนตรี ข. สํานักงานปลัดกระทรวง
ค. สํานักงานสภาการศึกษาแห่งชาติ ง. สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
89. ส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการใด ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นกรม
ก. สํานักงานรัฐมนตรี ข. สํานักงานปลัดกระทรวง
ค. สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ง. สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
90. การแบ่งส่วนราชการในสํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ออกเป็นกฎหมายใด

ก. กฎกระทรวง ข. ระเบียบ
ค. ประกาศ ง. พระราชกฤษฎีกา

91. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ก. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ
ข. กำหนดนโยบาย
ค. กำหนดเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงาน
ง. กำหนดงบประมาณ
92. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของสภาการศึกษา
ก. พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติ
ข. พิจารณาเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา
ค. จัดสรรงบประมาณ
ง. ดําเนินการประเมินผลการจัดการศึกษา
93. สภาการศึกษา มีหน้าที่ให้ความเห็นหรือคําแนะนําในเรื่องใด
ก. งบประมาณ ข. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ค. มาตรฐานการศึกษา ง. กฎหมายและกฎกระทรวง
94. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. พิจารณาเสนอหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การสนับสนุนทรัพยากร
ค. การเสนอจัดตั้งงบประมาณ
ง. การติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
95. ข้อใดไม่จัดอยูในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ก. ผู้แทนองค์กรเอกชน ข. ผู้แทนคณะกรรมการกลางอิสลาม
ค. ผู้แทนองค์กรศาสนาอื่น ง. ผู้แทนคณะสงฆ์

96. สํานักงานรัฐมนตรีมีใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
ก. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ ่ ข. เลขานุการรัฐมนตรี
ค. ปลัดกระทรวง ง. เลขารัฐมนตรี

97. ข้อใดไม่จัดอยูในการจัดระเบียบบริหารราชการของเขตพื้นที่การศึกษา
ก. สํานักงานเขตพื้นทีการศึกษา
ข. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับตํ่ากว่าปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
ง. ส่วนราชการที่เรียกชื่ออยางอื่น
98. การแบ่งส่วนราชการภายในของเขตพื้นที่การศึกษาออกเป็นกฎหมายใด
ก. กฎกระทรวง ข. ประกาศกระทรวง
ค. ประกาศสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ง. ระเบียบคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
99. สถานศึกษาใดมีฐานะเป็นนิติบุคคล
ก. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งหมด
ข. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จัดการศึกษาตํกว่าระดับปริญญา
ค. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับตํ่ากว่าปริญญาและระดับปริญญา
ง. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเฉพาะที่เป็นโรงเรียน
100. ข้อใดไม่ใช่อํานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการและสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ก. กำกับ ดูแล จัดตั้งยุบรวมหรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ประสาน ส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษาเอกชนในเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. สนับสนุนทรัพยากรให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษา

เฉลย
ข้อสอบกฎหมาย ชุดที่ 3 1. ง 2.ข 3. ข 4.ง 5. ค 6. ข 7.ข 8. ง 9.ก 10. ง 11. ค 12.ข 13. ก 14.ค 15.ก
16. ง 17.ก 18.ข 19.ง 20.ก 21. ก 22.ก 23. ข 24.ง 25. ก 26. ค 27. ง 28.ค 29.ค 30. ข 31.ค 32. ข 33.ง
34. ง 35.ง 36. ง 37. ก 38.ง 39.ค 40. ง 41. ก 42. ง 43. ง 44.ก 45.ง 46. ก 47.ง 48. ก 49. ง 50. ค 51. ข
52.ก 53. ง 54.ก 55.ง 56.ก 57.ข 58. ข 59.ข 60. ง 61.ก 62. ง 63. ข 64. ข 65.ง 66.ข 67.ข 68.ก 69.ง
70.ค 71. ข 72.ง 73. ข 74. ค 75.ข 76.ก 77.ข 78.ค 79.ข 80. ค 81. ง 82.ข 83.ก 84.ค 85.ก 86.ค 87.ข
88. ค 89.ก 90. ก 91.ง 92. ค 93. ง 94.ค 95.ข 96.ก 97. ค 98. ข 99. ง 100.ง

มีหนังสือเตรียมสอบครูผู้ช่วยทุกหน่วยราชการจำหน่ายราคาพิเศษ>> http://pakdee277.blogspot.com/2016/12/blog-post_28.html <<
  

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แนวข้อสอบวิชาการศึกษา เตรียมสอบครูสพฐ. กทม. กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น อาชีวฯ ชุดที่่ 1


แนวข้อสอบวิชาการศึกษา เตรียมสอบครูสพฐ. ,กทม., กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น,อาชีวฯ
แนวข้อสอบความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาเฉพาะตาแหน่ง วิชาการศึกษา
คำชี้แจง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงหนึ่งคำตอบในแต่ละข้อ
1.หลักสูตรมีความหมายตรงกับข้อใด
ก.คู่มือประกอบการศึกษาของครู ข. เอกสารกำหนดทิศทางให้ครูสอน
ค. มวลประสบการณ์ที่สถานศึกษาจัดให้ผู้เรียน ง. เนื้อหาวิชาที่กำหนดให้ผู้เรียนเรียน
2. ความหมายของหลักสูตรในฐานะที่เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางคือข้อใด
ก. หลักสูตร คือเนื้อหาสาระ ข. หลักสูตรคือหนังสือ
ค. หลักสูตร คือกิจกรรม ง. หลักสูตร คือมวลประสบการณ์
3. หลักสูตรแบบใดที่เน้นการถ่ายทอดเนื้อหาวิชาให้เรียนรู้เนื้อหาวิชามากๆ
ก. แบบสัมพันธ์วิชา ข. แบบเนื้อหาวิชา
ค. แบบสหวิทยาการ ง. แบบบูรณาการ
4. หลักสูตรแบบเนื้อหาวิชายึดแนวคิดปรัชญาการศึกษาแบบใด
ก. ปรัชญสารัตถนิยม ข.ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
ค. ปรัชญานิรันตรนิยม ง. ถูกทั้ง ข้อ ก และ ข
5. หลักสูตร ครอบคลุมชีวิตประจาวัน ครูไม่เป็นผู้ออกคาสั่ง ทาหน้าที่แนะแนวทาง ผู้เรียนมีอิสระในการเลือก ตัดสินใจ โรงเรียนเป็นแบบจาลองสังคม ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับปรัชญาข้อใด
ก. ปรัชญาสารัตถนิยม ข. ปรัชญานิรันตรนิยม
ค. ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม ง. ปรัชญาปฎิรูปนิยม
6. หลักสูตรแบบใดที่ยึดแนวคิดจากปรัชญาการศึกษาพิพัฒนาการนิยม
ก. หลักสูตรกิจกรรม ข. หลักสูตรแกนกลาง
ค. หลักสูตรเพื่อชีวิตและสังคม ง. ถูกทั้ง ข้อ ก และ ข
7. ถ้าเรือหางยาวเปรียบเสมือนกับหลักสูตรแล้วหางเสือเปรียบเสมือนอะไร
ก. ความมุ่งหมาย ข. เนื้อหา
ค. กระบวนการเรียนการสอน ค. การประเมินผล
8. การพัฒนาหลักสูตรควรเริ่มต้นจากการดำเนินการตามข้อใด
ก. การเลือกและจัดเนื้อหาวิชา ข. กาหนดจุดมุ่งหมาย
ค. การนาหลักสูตรไปใช้ ง. การประเมินผลหลักสูตร
9. ข้อใด คือประโยชน์จากการพัฒนาหลักสูตรสาหรับครูผู้สอน
ก. พัฒนาการศึกษาให้สอดคล้องกับความเจริญ
ข. สามารถจัดการเรียนการสอนให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสังคมและโลก
ค. ประพฤติตัวเป็นพลเมืองดีของสังคม
ง. ครูเชี่ยวชาญการสอนมากขึ้น
10. การนำผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงหลักสูตร ตรงกับข้อใด
ก. จุดมุ่งหมาย ข. เนื้อหา ค. การนาหลักสูตรไปใช้ ง.การประเมินผล
ค. ผู้เรียนมีโอกาสฝึกและเรียนรู้ ง. ประสบการณ์ ตอบสนองจุดประสงค์
11. ข้อใดกล่าวเรื่องหลักการสอนไม่ถูกต้อง
ก. สอนจากทฤษฎีไปหาตัวอย่าง ข. สอนจากง่ายไปหายาก
ค. สอนจากรูปธรรมไปหานามธรรม ง. สอนจากสิ่งใกล้ตัวไปหาไกลตัว
12. บลูม ( Bloom) ได้แบ่งพฤติกรรมผู้มีการศึกษาโดยคาดหวังไว้ 3 ลักษณะข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมของผู้มีการศึกษาที่คาดหวังของบลูม
ก. พุทธิพิสัย ข. จิตพิสัย
ค. พัฒนพิสัย ง. ทักษะพิสัย
13. การสอนแบบนิรนัย (Deductive Method )มีลักษณะตามข้อใด
ก. การสอนจากส่วนย่อยไปหาส่วนรวม
ข. การสอนจากส่วนรวมหาส่วนย่อย
ค. การสอนให้นักเรียนค้นความด้วยตนเอง
ง. การสอนแบบภาพรวม
14. การสอนแบบอุปนัย ( Inductive Method ) มีลักษณะตามข้อใด
ก. การสอนจากส่วนย่อยไปหาส่วนรวม
ข. การสอนจากส่วนรวมไปหาส่วนย่อย
ค. การสอนให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตนเอง
ง. การสอนแบบร่วมมือ
15. ขั้นตอนแรกของการสอนโดยวิธีการแก้ปัญหา
ก. กำหนดขอบเขตของปัญหา (Location of Problem )
ข. ตั้งสมมุติฐาน ( Setting up of Hyprothesis )
ค. วิเคราะห์ข้อมูล ( Analysis of Data )
ง. ศึกษาสภาพผู้เรียน ( Context )
16. สมุทัย ในวิธีการสอนแบบอริยสัจ 4 ตรงกับวิธีการสอนแบบวิทยาศาสตร์ข้อใด
ก.กำหนดปัญหาร ข. ตั้งสมมุติฐาน
ค. ทดลองและแก้ปัญหา ง. วิเคราะหืข้อมูล
17. นิโรธ ในวิธิการสอนของอริยสัจ 4 ตรงกับวิธีสอนวิทยาศาสตร์ข้อใด
ก. กำหนดปัญหา ข. ตั้งสมมุติฐาน
ค. ทดลองและแก้ปัญหา ง. วิเคราะห์ข้อมูล
18. การจัดกิจกรรมการเรียนให้สอดคล้องกับการทำงานของสมองคือข้อใด
ก. 4 MAT ข. CIPPA MODEL
ค. Six Thinking ง. PBL
19. ข้อใดไม่ได้เป็นกิจกรรม 4 MAT
ก. Why ข. What ค. Where ง. If
20. Constructivity เป็นการจัดการเรียนรู้ตามข้อใด
ก. สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ข. การศึกษาเป็นรายบุคคล
ค. บูรณาการ ง. แบบเน้นประสบการณ์
21.เพราะเหตุใดครูจึงต้องเข้าใจพัฒนาการเด็ก
ก. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการของมนุษย์ ข.เพื่อนาความรู้ไปใช้ดูแลบุตร
ค. เพื่อช่วยครูในการปกครองบุตร ง. เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนการสอนได้สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย
22. ถ้าท่านสังเกตพบว่าเด็กนักเรียนมีพฤติกรรมผิดปกติ ท่านจะมีกระบวนการช่วยเหลืออย่างไร
ก. รีบพาไปพบจิตแพทย์ ข. พาไปพบผู้ให้คาปรึกษาทันที
ค.หาข้อมูลเพิ่มแล้ววินิจฉัยสาเหตุ ง. มอบผู้ปกครองให้ดาเนินการเอง
23. ข้อใดเป็นผลเสียต่อการพัฒนาเด็กมากที่สุด
ก. การเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัย ข. การแสดงความรักใคร่สม่าเสมอ
ค. การเร่งรัดพัฒนาการ ง. การปล่อยปละละเลย
24. การเริ่มปลูกฝังบทบาททางเพศให้สอดคล้องกับเพศธรรมชาติ ควรทำในวัยใด
ก. วัยเด็กทารก ข. วัยเด็กตอนต้น
ค. วัยเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ง. วัยรุ่นตอนปลาย
25. ผู้ปกครองเปิดโอกาสให้ลูกวัยรุ่นพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้าน โดยแม่จัดอาหารเล็กๆน้อยๆเลี้ยงเพื่อนของลูกในโอกาสต่างๆ แสดงว่าผู้ปกครองส่งเสริมเรื่องใดแก่ลูก
ก. การส่งเสริมพัฒนาการทางกาย ข. การส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์
ค. การส่งเสริมพัฒนารทางสังคม ง. การส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา
26. ครูปฎิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์เรื่องการประหยัดพลังงานโดยเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟ แสดงว่าครูกาลังปลูกฝังลักษณะจิตอาสาแก่เด็กนักเรียนในข้อใด
ก. การส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย ข. การส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์
ค. การส่งเสริมพัฒนาการทางสังคม ง. การส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา
ให้ผู้ตอบอ่านข้อความต่อไปนี้เพื่อตอบคาถาม ข้อ 18 กับ ข้อ 19
เด็กชายไทยแท้ อายุ 14 ปี ตามพ่อไปเก็บรวงผึ้งด้วยความอยากรู้ เขาเห็นพ่อพ่นควันจากยาสูบไปที่รวงผึ้ง สักครู่ผึ้งก็บินออกจากรวงจนหมด เขาเห็นพ่อเก็บรวงผึ้งลงมาได้อย่างน่าทึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ลองเก็บรวงผึ้งด้วยวิธีเดียวกับพ่อ
27. แทนไทยเรียนรู้การเก็บรวงผึ้งด้วยวิธีการใด
ก. การลองผิดลองถูก ข. การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
ค. การวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทา ง. การสังเกตตัวแบบ
28. อะไรเป็นเป็นสิ่งที่ช่วยให้ไทยแท้เรียนรู้ได้เร็ว
ก. เขาเป็นเด็กฉลาด ข.เขามีความใส่ใจ เพราอยากรู้
ค. พ่อสนับสนุน ง. เขาต้องการทอาชีพขายน้าผึ้ง
29. ข้อใดเป็นความเหมือนกัน ระหว่างการเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงลบที่สาคัญ
ก. การให้การเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงลบ ต้องให้ภายหลังที่เด็กแสดงพฤติกรรมเสมอ
ข. การได้รับการเสริมแรงบวกและเสริมแรงลบมีผลให้พฤติกรรมที่ได้รับการเสริมแรงของเด็กเกิดมากขึ้น
ค. ทั้งการเสริมแรงบวก และการเสริมแรงลบ สามารถนามาใช้ยับยั้งพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็กได้
ง. ถูกทุกข้อ
30. การจูงใจให้ผู้เรียนด้วยกันให้รางวัลและการลงโทษที่ส่งผลดีต่อการเรียนรู้ ควรทำอย่างไร
ก. การให้รางวัลทันที เมื่อนักเรียนทากิจกรรมได้สาเร็จตามเป้าหมายของการเรียนรู้
ข. การลงโทษทันทีเมื่อทากิจกรรมล้มเหลว เพื่อให้นักเรียนหลาบจา
ค. การให้รางวัลและการลงโทษ ควรทาอย่างเปิดเผย
ง. การลงโทษทางร่างกายให้ผลดีกว่าการลงโทษทางจิตใจ
31.คำตอบข้อใด คือ ความหมายของการจัดการชั้นเรียน ที่ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด
ก. การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน เพิอพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน
ข. การจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในภายนอกห้องเรียน เพื่อให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน
ค. การจัดทาความสะอาดภายในชั้นเรียนและภายนอกชั้นเรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีสุขภาพกายสุขภาพใจดี
ง. การจัดภูมิทัศน์ที่สวยงามและสะดวกต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ
32. คำตอบข้อใดไม่เกี่ยวกับการจัดการชั้นเรียน
ก. การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพในห้องเรียน
ข. การจัดการกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของผู้เรียน
ค. การสร้าง กฎระเบียบ และการดาเนินการที่ทาให้บทเรียนน่าสนใจ
ง. การมอบงานให้ผุ้เรียนศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้หลากหลาย
33. การจัดสภาพแวดล้อมพึงคำนึงถึงเรื่องใดมากที่สุด
ก. ความสะดวกในการทากิจกรรมของผู้เรียน
ข. ความสะดวกการทางานของครู
ง. กาหนดขอบเขตการเล่นแน่นอน
34. การจัดการชั้นเรียนมีความสาคัญด้วยเหตุผลใดมากที่สุด
ก. ความสะอาด สะดวก สวยงามภายในห้องรียน จะนาไปสู่การเรียนรู้อย่างมีความสุขแก่ผู้เรียน
ข. การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการจัดชั้นเรียน และไม่เป็นปัยหาแม้จะมีสิ่งรยกวนในชั้นเรียนก็ตาม
ค. การจัดชั้นเรียนที่ไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้เรียน ทาให้มีปัญหาในการแก้ไขพฤติกรรมมากขึ้น
ง. การวางกฎระเบียบของชั้นเรียนจะช่วยให้ผู้เรียนมีวินัยและอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร
35. การจัดชั้นเรียนเพื่อส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ควรมีลักษณะอย่างไร
ก. เป็นระเบียบเรียบร้อย ตกแต่งห้องเรียนสวยงาม
ข. จัดโต๊ะเป็นระเบียบและยึดติดกับพื้นเพื่อป้องกันการย้าย
ค. ควบคุมแสงสว่างด้านหน้าให้น้อยกว่าด้านหลังเพื่อป้องกันสายตาเสีย
ง. จัดมุมต่างๆ และห้องน้าให้อยู่ในห้องเรียนเพื่อความสะดวกเรียบร้อย
36. ครูในฐานะผู้จัดการชั้นเรียน จะมีวิธีการอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
ก. กาหนดกฎระเบียบในชั้นเรียนทุกวัน
ข. เก็บอุปกรณ์เครื่องมือเคริ่องใช้ในที่ปลอดภัย
ค. ให้นักเรียนเป็นผู้กาหนดลักษณะการเคลื่อนไหวของตนเอง
ง. การจัดการเกี่ยวกับการเปลี่ยนกิจกรรมการเรียนในชั่วโมงเรียน
37. การบริหารจัดการในชั้นเรียน หมายถึงข้อใด
ก. การจัดครูเข้าสอน ข. การจัดทาแผนการเรียนรู้
ค. การจัดตารางสอนหรือตารางเรียน ง. การจัดการชั้นเรียนหรือการจัดกลุ่มผู้เรียน
38. แนวทางปฎิบัติเพื่อปรับพฤติกรรมของเด็กให้มีวินัยในห้องเรียน คือ
ก. ครูต้องเป็นแบบอย่างในเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้กับเด็ก
ข. ครูต้องมีความเที่ยงตรง สม่าเสมอ และวางเฉยบ้างบางครั้ง
ค. ครูต้องรู้แผนงานในแต่ละภาคการศึกษาเพื่อเตรียมตัวในการทากิจกรรม
ง. ครูต้องทาข้อตกลงการปฎิบัติภายในห้องเรียนร่วมกับผู้เรียนพอใจในระดับสูง
39. การจัดชั้นเรียนทางกายภาพ หมายถึงอะไร
ก. การปรับปรุงสภาพการเรียน เพื่อป้องกันปัญหาด้านพฤติกรรมผู้เรียน
ข. การจัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนซึ่งมีผลต่อพฤติกรรมทั้งครูและผุ้เรียน
ค. การปรับปรุงสวนหย่อมในโรงเรียนเพื่อปรับแก้ไขพฤติกรรมผู้เรียน
ง. การดาเนินการเพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาตามความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน
40. ข้อใดคือปัจจัยพื้นฐานที่อาจส่งผลต่อความสาเร็จหรือความล้มเหลวของการจัดชั้นเรียนของครู
ก. การจัดที่นั่งของครู ข. ปฎิสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้บริหารครู
ค. การรับรู้บรรยากาศนโรงเรียน ง.การเคลื่อนที่ไปรอบๆของสมาชิกในชั้นเรียน
41.ความหมายของคำว่าวิจัย ( Research ) ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. การหาความจริงโดยคนฉลาด ข. การหาความจริงโดยเหตุผล
ค. การหาความจริงโดยวิธีการที่เชื่อถือได้ ง. การหาความจริงโดยการศึกษาค้นคว้า 42. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์
ก. ขั้นตั้งปัญหา ข. ขั้นเปรียบเทียบ
ค. ขั้นตั้งสมมุติฐาน ง. ขั้นวิเคราะห์
43. ผู้วิจัยจะกล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้เขาทำการวิจัยในแต่ละเรื่องไว้ในส่วนใดของรายงานการวิจัย
ก. ชื่อเรื่อง ข. ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
ค. วัตถุประสงค์ของการวิจัย ง. วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
44. ข้อใดเป็นการวิจัยเชิงทดลอง
ก. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความคิดสร้างสรรค์และสุขภาพจิต
ข. เปรียบเทียบค่านิยมเกี่ยวกับปริญญาบัตรของคนในเมืองและคนในชนบท
ค. เปรียบเทียบสาเหตุของการสอบตกซ้าชั้นของนักเรียนระดับมัธยมศึกษากับอาชีวศึกษา
ง. เปรียบเทียบผลการเรียนภาษาของนักเรียน ปวช.โดยการให้อ่านในใจและอ่านออกเสียง
45. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติที่สาคัญของการวิจัยเชิงบรรยาย
ก. เป็นการศึกษาอิทธิพลเชิงสาเหตุระหว่างตัวแปร ข. เป็นการหาความแตกต่าระหว่างค่าเฉลี่ย
ค. เป็นการเก็บข้อมูลจากสิ่งที่ผู้วิจัยจัดกระทาขึ้นมา ง. เป็นการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างหลายหลายกลุ่ม
46. จากวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่กาหนดให้ ตัวแปรต้นคืออะไร
วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อเปรียบเทียบความสนใจในวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่อยู่ในเมืองและในชนบท
ก. ความสนใจ ข. วิชาวิทยาศาสตร์
ค. ความสนใจ ง. ภูมิลาเนาของนักเรียน
47. จากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในข้อ 6 ตัวแปรตามคืออะไร
ก. ความสนใจ ข. วิชาวิทยาศาตร์
ค. ความสนใจวิชาวิทยาศาสตร์ ง. ภูมิลาเนาของนักเรียน
48. ข้อใดเป็นสมมุติฐานการวิจัยแบบไม่มีทิศทาง
ก. มะม่วงทาบกิ่งให้ผลผลิตสูงกว่ามะม่วงกิ่งตอน
ข. ความรับผิดชอบของนักศึกษาชายแตกต่างจากนักศึกษาหญิง
ค. อัตราการว่างงานของบัณฑิตสายครูน้อยกว่าสายอื่น
ง. คะแนนสอบกับเวลาที่ใช้ทบทวนบทเรียนมีความสัมพันธืเชิงบวก
49. “ เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิจัยการศึกษาของนักศึกษา “ ข้อความประโยคนี้สอดคล้องกับวิธีการและเครื่องมือการวิจัยข้อใด
ก. การสังเกต ข. การสัมภาษณ์
ค. ผลตอบแทน ง. แบบทดสอบ
50. “เพื่อสารวจจานวนนักศึกษาที่ข้ามถนนโดยไม่ใช้สะพานลอย” ข้อความประโยคนี้สอดคล้องกับวิธีการและเครื่องมือการวิจัยข้อใด
ก. การสังเกต ข.การสัมภาษณ์
ค. แบบสอบถาม ง. แบบทดสอบ
51.ข้อใดตรงกับคำจำกัดความสั้นๆของคาว่า “เทคโนโลยี”
ก. การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน
ข. การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาในการทางาน
ค. การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการทางาน
ง. ถูกทุกข้อ
52. ความหมายของนวัตกรรมทางการศึกษา ข้อใดได้ความชัดเจนมากที่สุด
ก. การกระทาของบุคคลที่สังคมยอมรับ
ข. ความคิดใหม่ หรือการกระทาใหม่ที่ทาให้กิจการที่กระทามีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่วางไว้
ค. โครงการใหม่ๆที่คิดว่าจะสามารถนาไปปรับปรุงระบบงานที่กระทาอยู่
ง. การกระทาของบุคคลที่ได้รับการยอมรับในหมู่นักการศึกษา
53. ข้อใดจัดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษา
ก. ชุดการเรียนการสอน ( Instruction Packages)
ข. บทเรียน CAI ( Computer Assistance Instruction )
ค. การเรียนการสอนแบบ E-Learning
ง. ถูกทุกข้อ
54. ส่วนสำคัญที่สุดที่จะต้องถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาทางการสอนได้แก่ข้อใด
ก. Output ข. Input ค. Process ง. Feedback
55. ต่อไปนี้ ข้อใดเป็นตัวอย่างของ วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ โดยเรียงตามลำดับต่อไปนี้
ก. ชอล์ค กระดาน เกมส์ ข. แผ่นใส ฟิลม์ภาพยนต์ นิทาน
ค.แบบเรียน ภาพโปสเตอร์ แผนที่ ง. ชิงช้า กระดานชอล์ก เครื่องเล่นเทป
56. ข้อใดไม่ใช่ความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ก. ช่วยเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพการทางาน ข. ทาให้มีการกระจายโอกาสการเรียนรู้
ค. ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ง. ช่วยให้ทางานอย่างมีความสุข
57. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจัดทำฐานข้อมูล ผลการเรียนของนักเรียนทุกระดับชั้น
ก.ระบบการประมวลผลรายการ ข. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ค. ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ ง. ระบบผู้เชี่ยวชาญ
58. ซอฟแวร์ ที่ควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ได้แก่ข้อใด
ก. Word Processing ข. Application Software
ค. Database ง. System Software
59. คอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจาวัน/ตามบ้านและที่ทางาน เป็นคอมพิวเตอร์ประเภทใด
ก. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ข. มินิคอมพิวเตอร์
ค. ไมโครคอมพิวเตอร์ ง. เวิร์คสเตชันคอมพิวเตอร์
60. โปรแกรมใดสามารถนำมาผลิตสื่อการเรียนการสอนแบบมัลติมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก. Window media player ข. Multimedia
ค. Winamp ง. Flash
61. ข้อใดหมายถึง วารสารอิเล็กทรอนิกส์
ก. e-Commerce ข. E-Business
ค. e-Library ง. E-Journal
62. ข้อใด หมายถึงเอกสารประกอบการเรียนการสอนที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สาหรับการเรียนการสอนออนไลน์
ก. Virtual Education ข. Courseware
ค. e-Education ง. HTML
63. ข้อใด เป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่นามาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน
ก. การศึกษาทางไกล ข. การเรียนการสอนออนไลน์
ค. e-Learning ง. ถูกทุกข้อ
64. ข้อใด ไม่ใช่จุดมุ่งหมายการการเรียนที่วัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย
ก. ผู้เรียนมีความเข้าใจเรื่องเป่าขลุ่ย ข. ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการวาดภาพ
ค.ผู้เรียนมีค่านิยมต่อการรับประทานข้าวกล้อง ง. ผู้เรียนมีความสนใจการประดิษฐ์วัสดุเหลือใช้
65. ข้อใดเป็นจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม
ก.ผู้เรียนมีความรู้ในการถนอมอาหาร
ข. หลังการสาธิต ผู้เรียนบอกวิธีการทานมถั่วเหลืองได้ไม่น้อยกว่า 4 จาก 5 ขั้นตอน
ค. ผู้เรียนเห็นความสาคัญของการเล่นกีฬา
ง. นักเรียนมีทักษะซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
66. วิธีการใดเหมาะที่จะใช้วัดพฤติกรรมด้านพุทธพิสัย
ก. การสารวจ ข. การสังเกต
ค. การทดสอบ ง. การทาสังคมมิติ
67. ปัญหาของโครงการนี้อยู่ที่จุดประสงค์ของโครงการกับเป้าหมายความสาเร็จไปคนละทางเป็นการประเมินแบบใด
ก. การประเมิน ความจาเป็น ข. การประเมินความเป็นไปได้
ค. การประเมินตัวโครงการ ง. การประเมินขณะดาเนินงาน
68. สอบบรรจุครูปีนี้ คนสมัครเป็นหมื่นเอาแค่ 200 คนเท่านั้น ตรงกับความมุ่งหมายในการวัดผลข้อใด
ก. เพื่อจัดตาแหน่ง ข. เพื่อวินิจฉัย
ค. เพื่อเปรียบเทียบ ง. เพื่อพยากรณ์
69. โด่งสอบเข้าเรียนเอกคณิตศาสตร์ได้ตามที่คาดไว้ ตรงกับความมุ่งหมายในการวัดผลข้อใด
ก. เพื่อจัดตาแหน่ง ข. เพื่อวินิจฉัย
ค. เพื่อเปรียบเทียบ ง. เพื่อพยากรณ์
70. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับการวัดผลการเรียนการสอน
ก. การให้ปฎิบัติจริง เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
ข. การตรวจให้คะแนนการปฎิบัติจริง ควรแบ่งให้คะแนนวิธีการปฎิบัติ และผลการปฎิบัติในอัตราส่วนที่เท่ากัน
ค. การจัดอันดับคุณภาพ เป็นวิธีการที่ช่วยให้การให้คะแนนผลการปฎิบัติมีความยุติธรรมมากขึ้น
ง. การวัดผลการเรียนการสอนโดยการให้ปฎิบัติจริง ต้องใช้การสังเกตควบคู่ไปด้วยเสมอ
71.“ข้อสอบของครูแสนรักวัดแต่ความจำเพียงอย่างเดียว ทั้งๆที่หลักสูตรเน้นให้นักเรียนมีความเข้าใจด้วย”ข้อความนี้สอดคล้องหรือพาดพิงถึงลักษณะของแบบทดสอบข้อใด
ก. ความเที่ยงตรง ข. ความเชื่อมั่น
ค. ความเป็นปรนัย ง. ความยากง่าย
72. การประเมินทางการศึกษามีความหมายหลายประการ ยกเว้นข้อใด
ก. เป็นการประเมินเพื่อวินิจฉัย และตรวจสอบหาข้อบกพร่อง ปัญหาอุปสรรคในการทางาน
ข. เป็นการประเมินเพื่อปรับปรุง การดาเนินงานโดยพิจารณาว่าจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ตรงกับความต้องการและเป็นที่ยอมรับหรือไม่
ค. เป็นการประเมินเพื่อตัดสินเพื่อลงสรุป ว่าการดาเนินงานนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่
ง. เป็นการประเมินเพื่อมุ่งเน้นความผิดพลาดในการดาเนินงานและการให้คุณให้โทษ
73. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การประเมินผลมาก่อนการวัดผล ข. การวัผลมาก่อนการประเมินผล
ค. การวัดผลเป็นการตัดสินใจพิจารณา ง. การวัดผลและประเมินผลเป็นสิ่งเดียวกัน
74.การพัฒนาคุณภาพผู้สาเร็จการศึกษาทุกระดับต้องครอบคลุมอย่างน้อยกี่ด้าน
ก. 1 ด้าน ข. 2 ด้าน ค.3 ด้าน ง. 4 ด้าน
75. การพัฒนาด้านคุณลักษณะพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษาทุกระดับตรงกับข้อใด
ก. คุณธรรมจริยธรรม ข. จรรยาบรรณวิชาชีพ
ค. พฤติกรรมลักษณะนิสัย ง. ถูกทุกข้อ
76. ข้อใดเป็นสมรรถนะที่สาคัญของผู้เรียน
ก.ความสามารถในการสื่อสาร ข. ความสามารถในการคิด
ค. ความสามารถในการแก้ปัญหา ง. ถูกทุกข้อ
77.พฤติกรรมที่แสดงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักความเป็นไทยคือข้อใด
ก. แทนไทยยืนตรงเคารพธงชาติ ข. สมหญิงแต่งกายและมีมารยาทงดงามแบบไทย
ค. ภักดีปฎิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่พลเมืองของชาติ ง. ถุกทุกข้อที่กล่าวมา
78. แทนไทย เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษา ชุมชนและสังคมถือว่าเป็นผุ้มีลักษณะอันพึงประสงค์ตามข้อใด
ก. มีวินัย ข. มีจิตสาธารณะ
ค. อยู่อย่างพอเพียง ง. มีความซื่อสัตย์สุจริต
79. ข้อใดคือลักษณะของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ก. มุ่งให้ผู้เรียนพัมนาได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ
ข. มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาอย่างรอบด้าน
ค. ปลูกฝังสร้างจิตสานึกของการของการทาประโยชน์เพื่อสังคม
ง. ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
80. เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี มีความรับผิดชอบ เป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนด้านใด
ก. กิจกรรมแนะแนว ข. กิจกรรมนักเรียน
ค. กิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ ง. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์
81. บรรยากาศตามข้อใด เป็นสิ่งสาคัญในการพัฒนาในการพัฒนาความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับตนเองของนักเรียน
ก. บรรยากาศที่มีอิสระ ข. บรรยากาศที่ท้าทาย
ค. บรรยากาศที่มีความอบอุ่น ง. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ
82. ขั้นตอนแรกของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน คือข้อใด
ก. การส่งต่อ ข. การส่งเสริมนักเรียน
ค. การคัดกรองนักเรียน ง. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
83. ขั้นตอนสุดท้ายของระบบการดุแลช่วยเหลือนักเรียน คือข้อใด
ก. การส่งต่อ ข. การส่งเสริมนักเรียน
ค. การคัดกรองนักเรียน ง. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
เฉลย แนวข้อสอบ วิชาเฉพาะตาแหน่ง ( วิชาการศึกษา ) 1. ข 2. ง 3.ข 4. ง 5.ง 6.ง 7. ก 8. ข 9.ข10. ก 11. ก 12. ง 13.ข 14. ก 15.ก 16. ข 17 ค 18. ก 19 ค 20.ก 21.ง 22. ค 23. ง 24.ข 25.ค 26. ก 27.ง 28.ข29.ง 30. ก 31. ข 32.ง 33. ก 34.ง 35. ก 36.ก 37.ง 38. ง 39.ข 40.ง 41. ค 42.ข 43.ข 44. ง 45.ก 46. ง 47. ค48. ข 49. ง 50.ก 51.ง 52.ข 53.ง 54.ง 55. ก56.ข 57. ข 58. ง 59.ค 60. ง61. ง 62.ข 63.ง 64.ก65.ข 66. ค 67. ค 68. ก 69. ง 70. ข 71. ก 72.ง 73. ข 74. ค 75. ง 76. ง 77. ข 78.ข 79.ง 80.ข 81 ค 82.ง 83. ก
มีหนังสือเตรียมสอบครูผู้ช่วยทุกหน่วยราชการจำหน่ายราคาพิเศษ>> http://pakdee277.blogspot.com/2016/12/blog-post_28.html <<