วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แนวข้อสอบพรบ.กฎหมายการศึกษาที ใช้สอบครูผ้ช่วยทุกหน่วยราชการ ชุดที 1


แนวข้อสอบพรบ.กฎหมายการศึกษาที ใช้สอบครูผ้ช่วยทุกหน่วยราชการ ชุดที 1
1.พรบ.การศึกษาแห่งชาติ เกิดจากมาตราใดของกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ก. มาตรา 43 ข. มาตรา 49 ค. มาตรา 81 ง. มาตรา 802. มาตรา 49 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องก. บุคคลยอมมีสิทธิเสมอก่อนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้อยางทั่วถึง
ข. รัฐต้องจัดการศึกษาอยางมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
ค. ผู้พิการ ผู้ยากไร้ ผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก มีสิทธิ  ได้รับการศึกษาไม่น้อยกวา่ 12 ปี
ง. เพือให้ผู้พิการได้รับการศึกษาทัดเทียมกบบุคคลทั่วไป
3
. มาตรา 80 แห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญให้ความสําคัญเรื่องใดเป็นอันดับแรกก. แผนการศึกษาแห่งชาติ ข.กฎหมายพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
ค. เร่งรัดพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ง. พัฒนาวิชาชีพครู                                                        
4.บุคคลต่อไปนี7ข้อใดไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพคร
ก. ครู
ข. คณาจารย์
ค. ผู้บริหารการการศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา
ง. บุคลากรทางการศึกษา
5. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดการศึกษาตาม พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิต
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. พัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอยางต่อเนื่อง
ง. มีเอกภาพด้านนโยบาย มีความหลากหลายในการปฏิบัติ
6. ข้อใดไม่ใช่หลักการจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษาก. การกระจายอํานาจ ข. มาตรฐานและการประกนคุณภาพ
ค. การศึกษาตลอดชีวิต ง. มาตรฐานและการพัฒนาวิชาชีพครู

7. การจัดการศึกษาสําหรับบุคคลที มีความบกพร่องทางร่ายกาย จิตใจ กล่าวไว้ในหมวดใด ของ
พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. ความมุ่งหมายและหลักการ ข. สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา
ค. ระบบการศึกษา ง. แนวการจัดการศึกษา
8. การจัดการศึกษาสําหรับคนพิการข้อใดที ไม่ถูกต้องก. ให้จัดตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการ
ข. มีสิทธิได้รับสิ่งอํานวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นๆ
ค. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ง. อายุยางเข้าปี ที่เจ็ด จนถึงย่างเข้าปี ที่สิบหก
9. การจัดการศึกษาสําหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ ข้อใดถูกต้องก. จัดด้วยรูปแบบทีเหมาะสม ข. คํานึงถึงความสามารถ
ค. คํานึงถึงความแตกต่างระหวางบุคคล ่ ง. ถูกข้อ ก และ ข
10. สิทธิประโยชน์ที ผ้จัดการศึกษาจะพึงได้รับ ข้อใดไม่ถูกต้องก. การสนับสนุนจากรัฐ
ข. เงินอุดหนุนจากรัฐสําหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. การลดหย่อนภาษีทั่วไป
ง. การยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด
11. การศึกษาในระบบมีกี่ระดับ ข้อใดถูกทีสุดก. 2 ระดับคือ การศึกษาภาคบังคับและการศึกษาขั%นพื%นฐาน
ข. 2 ระดับคือ การศึกษาขั%นพื%นฐานและการศึกษาอุดมศึกษา
ค. 3 ระดับคือ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา
ง. 4 ระดับคือ ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาและอุดมศึกษา
12. การจัดการศึกษาภาคบังคับให้บุคคลตามข้อใดไม่ถูกต้องก. จัดให้เด็กที่มีอายุยางเข้าปี ที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปี ที่สิบหก ่
ข. จัดการศึกษาภาคบังคับเป็ นเวลา 9 ปี
ค. สอบได้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 9 แล้ว
ง. อายุพ้นเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ
13. ข้อใดไม่ใช่สถานศึกษาในการจัดการศึกษาปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐานตาม พรบ.การศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. 2542
ก. สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ข. โรงเรียน ค. ศูนย์การเรียน ง. วิทยาลัย14. การจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผ้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพอยู่ในมาตราใดของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542ก. มาตรา 22 ข. มาตรา 23 ค. มาตรา 24 ง. มาตรา 2515. การจัดการศึกษาเฉพาะทาง ต้องคํานึงถึงข้อใดก. นโยบาย ข. มาตรฐานการศึกษาของชาติ
ค. การประกนคุณภาพ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก และ ข
16. การจัดสรรโอกาสการเข้าศึกษาต่อของผ้เรียนในเบื้องต้นเป็นหน้าที่ ของใคร ูก. ผู้ปกครอง ข.สถานศึกษา
ค. คณะกรรมการเขตพืนทีการศึกษา ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
17. การประเมินผู้เรียนให้พิจารณาจากข้อใด ก. ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรม การร่วมกิจกรรม การทดสอบ พัฒนาการ
ข. การสังเกตพฤติกรรม การร่วมกิจกรรม การทดสอบ พัฒนาการ ความประพฤติ
ค. การสังเกตพฤติกรรม ความประพฤติ การร่วมกิจกรรม การทดสอบ พัฒนาการ
ง. พัฒนาการ ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรม การร่วมกิจกรรม การทดสอบ
18. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของหลักสูตรแกนกลางก. ความเป็นไทยและความเป็นพลเมืองดีของชาติ
ข. การดํารงชีวิตและการประกอบอาชีพ
ค. เพือการศึกษาต่อ

ง. เพือเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
19. จุดมุ่งหมายของสาระหลักสูตรทั้งที่เป็นวิชาการ และวิชาชีพต้องมุ่งพัฒนาคนให้มีความสมดุล
ทุกด้านยกเว้นข้อใด
ก. ความรู้ ความคิด ข. ความเป็นพลเมืองดี
ค. ความสามารถ ง. ความดีงามและความรับผิดชอบต่อสังคม
20. ใครมีหน้าที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน
ก. สถานศึกษา ข. ครอบครัวและชุมชน
ค. องค์กรชุมชน องค์กรและสถาบัน ง. สถานศึกษาร่วมมือกบผู้เกี่ยวข้องทุกข้อ
21. การกำหนดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นหน้าที่ของใคร
ก. กรมวิชาการ
ข. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. คณะกรรมการสภาการศึกษาศึกษา
22. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ
ก. ส่งเสริมและกำกับดูแลการศึกษาทุกระดับทุกประเภท
ข. กำหนดนโยบาย แผนและมาตรฐานการศึกษา
ค. สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
ง. ประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการกีฬา
23. ข้อใดไม่ใช่สี่องค์กรหลักในกระทรวงศึกษาธิการ
ก. คณะกรรมการการอุดมศึกษา ข. สภาการศึกษาแห่งชาติ
ค. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ง. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
24. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของสภาการศึกษา
ก. พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติ
ข. สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา

ค. ดําเนินการประเมินผลการจัดการศึกษา
ง. ให้ความเห็นหรือคําแนะนําเกี่ยวกับกฎหมายและกฎกระทรวง
25. คณะกรรมการชุดใดต่อไปนี้ที่มีรัฐมนตรี ศธ. เป็นประธานกรรมการ
ก. สภาการศึกษา
ข. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. คณะกรรมการการอุดมศึกษา
ง. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
26. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. พิจารณาเสนอนโยบาย แผนพัฒนา มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. พิจารณาเสนอหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ
ค. เสนอนโยบายและแผนในการสนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา
ง. ติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
27. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ผู้แทนองค์กรชุมชน ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ง. ผู้แทนองค์กรวิชาชีพ
28. การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ยึดเขตพื้นที่การศึกษา ข้อใดไม่ต้องคํานึงถึง
ก. ปริมาณสถานศึกษา ข. จํานวนนักเรียน
ค. วัฒนธรรม ง. ความเหมาะสมด้านอื่น
29. กรณีที่เขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ ใครอาจจัดเพื่อเสริมการบริหาร
จัดการของเขตพื้นทีการศึกษา
ก. รัฐมนตรี
ข. กระทรวง
ค. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ง. สํานักงาน
30. การกำหนดนโยบายและแผนจัดการศึกษาของเขตพื้นที่ให้คํานึงถึงผลกระทบต่อการจัด
การศึกษาของเอกชน ใครมีหน้าที่รับฟังความคิดเห็นของเอกชนและประชาชนประกอบการ
พิจารณา
ก. รัฐมนตรี คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข. สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ค. กระทรวง และสํานักงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ง. สํานัก หรือ สํานักบริหารงาน
31. ใครมีอํานาจกำหนดเขตพื้นทีการศึกษา
ก. คณะรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวง ง. รัฐสภา
32. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการและสํานักงานเขตพื้นทีการศึกษา
ก. กำกับ ดูแลจัดตั้ง ยุบรวมหรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ประสานส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษาเอกชน
ค. ประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
33. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ก. ผู้แทนองค์กรชุมชน ข. ผู้แทนองค์กรเอกชน
ค. ผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพครู ง. ผู้ทรงคุณวุฒิ
34. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีองค์ประกอบในข้อใดที่เหมือนกบคณะกรรมการชุดอื่น
ก. ผู้แทนองค์กรเอกชน ข. ผู้แทนศิษย์เก่า
ค. ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ ง. ผู้ทรงคุณวุฒิ
35. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีอํานาจหน้าที่ตามข้อใด
ก. กำหนดนโยบายและแผนพัฒนา

ข. กำกับส่งเสริมสนับสนุนกิจการของสถานศึกษา
ค. ประสานส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาเอกชน
ง. สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษา
36. ข้อใดเป็นหัวใจสําคัญของระบบการประกันคุณภาพภายใน
ก. ดําเนินการโดยหน่วยงานต้นสังกดและสถานศึกษา ั
ข. เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษา
ค. มีการจัดทํารายงานประจําปี เสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเปิดเผยต่อ
สาธารณชน
ง. เพื่อพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา
37. ข้อใดไม่ได้กำหนดไว้ในระบบการประกนคุณภาพภายนอก
ก. ประเมินผลและติดตามตวจสอบโดย สมศ.
ข. คํานึงถึงความมุ่งหมาย หลักการและแนวการจัดการศึกษา
ค. ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งอยางน้อย 1 ครั้งในทุก 5 ปี นับแต่การ
ประเมินครั้งสุดท้าย
ง. เสนอยุบเลิกโรงเรียนที่ไม่ผานการประเมิน
38.กรณีที่ผลการประเมินไม่ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด  สมศ.ต้องดําเนินการอย่างไรเป็นอันดับแรก
ก. รายงานต่อคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. จัดทําข้อเสนอแนะการปรับปรุงแกไขต่อหน่วยงานต้นสังกัด
ค. แจ้งให้สถานศึกษาปรับปรุงแกไขภายในกำหนด
ง. เสนอหน่วยงานทีเกี่ยวข้องและเปิดเผยต่อสาธารณชน
39. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ
ก. ส่งเสริมให้มีระบบกระบวนการผลิต การพัฒนาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา
ข. กำกับและประสานให้สถาบันที่ทําหน้าที่ผลิตและพัฒนาให้มีความพร้อมและมีความเข้มแข็ง
ค. จัดสรรและจัดตั้งกองทุนพัฒนาครูอย่างเพียงพอ 

ง. กำหนดมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
40. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ขององค์กรวิชาชีพครู
ก. กำหนดมาตรฐาน จรรยาบรรณของวิชาชีพ
ข. พัฒนาวิชาชีพ
ค. ออกและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ง. ผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
41. บุคคลในข้อใดต่อไปนี้ไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ
ก. ครู
ข. ผู้บริหารสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา
ค. บุคลากรทางการศึกษาอื่น
ง. ผู้บริหารระดับเขตพื้นทีการศึกษา
42. อสังหาริมทรัพย์ที่สถานศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคลได้มาโดยมีผู้อุทิศให้โดยการซื้อหรือการ
แลกเปลี่ยนจากรายได้ของสถานศึกษา เป็นสมบัติของใคร
ก. ที่ราชพัสดุ ข. กรรมสิทธิของสถานศึกษา
ค. กระทรวงการคลัง ง. สมบัติของแผนดิน
43. ให้รัฐจัดสรรงบประมาณแผนดินให้กับการศึกษาในข้อใดเป็นอันดับแรก
ก. เป็นค่าใช้จ่ายรายบุคคลแก่ผู้เรียนการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. กองทุนกู้ยืมเรียนให้แก่ผู้ที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย
ค. สําหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ
ง. ค่าใช้จ่ายดําเนินการและงบลงทุน
44. รัฐต้องดําเนินการตามข้อใดเป็นอันดับแรก
ก. จัดสรรคลื่นความถี่ สื่อตัวนํา และโครงสร้างพื้นฐานอื่นที่จําเป็น
ข. สนับสนุนให้มีการผลิตและพัฒนาโดยเปิดให้มีการแข่งขันโดยเสรีอยางเป็นธรรม
ค. พัฒนาบุคลากรทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้

ง. ตั้งกองทุน ICT
45. ตําแหน่งใดไม่เทียบเท่า ผอ.สถานศึกษา
ก. รอง ผอ.สถานศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
ข. เป็ นรอง ผอ.สพท.ชํานาญการ
ค. ดํารงตําแหน่ง อ.2 ระดับ 7
ง. เป็นครูชํานาญการ
46. โทษทางวินัยมีกี่สถาน
ก. 4 สถาน ข. 5 สถาน
ค. 6 สถาน ง. 7 สถาน
47. หมวด 6 ว่าด้วยเรื่องใด
ก. วินัยและการรักษาวินัย ข. อํานาจการลงโทษทางวินัย
ค. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ง. การเสริมสร้างประสิทธิภาพ
48. ผู้บริหารโรงเรียนมีอํานาจลงโทษตาม ข้อใด
ก. ภาคทัณฑ์ ข. ตัดเงินเดือน
ค. ลดขั้นเงินเดือน ง. ข้อ ก และ ข ถูก
49. การร้องทุกข์เป็นไปตามข้อใด
ก. ไม่ได้รับความเป็ นธรรมจาก ผู้บังคับบัญชา
ข. ผู้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติต่อตนให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ค. ให้ดําเนินการภายใน 30 วัน
ง. ถูกทุกข้อ
50. โทษทางวินัยข้อใดถือว่าเป็นโทษร้ายแรง
ก. ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ข. ลดขั้นเงินเดือน ไล่ออก
ค. ตัดเงินเดือน ไล่ออก ง. ปลดออก ไล่ออก
51. การเตรียมความพร้อมและพัฒนาอยางเข้มเป็นไปตามข้อใด 

ก. 2 ปี นับแต่มีคําสั่งแต่งตั้ง ข. 2 ปี นับแต่เข้าปฏิบัติหน้าที่
ค. 1 ปี นับแต่มีคําสั่งแต่งตั้ง ง. 6 เดือนนับแต่เข้าปฏิบัติหน้าที่
52. ข้อใดไม่ใช่โทษทางวินัย
ก. ตัดเงินเดือน ข. ลดขั้นเงินเดือน
ค. ให้ออก ง. ปลดออก
53. กรณีถูกลงโทษทางวินัยมีสิทธิตามข้อใด
ก. อุทธรณ์ ข. ร้องทุกข์
ค. ฟ้องศาลปกครอง ง. ถูกทุกข้อ
54. กรณีไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการต่อไปได้จะต้องดําเนินการ
อย่างไร
ก. ครบ 2 ปี แล้วสั่งให้ออกจากราชการ
ข. ไม่ต้องรอให้ครบ 2 ปี แล้วสั่งให้ออกจากราชการ
ค. ครบ 1 ปี แล้วสั่งให้ออกจากราชการ
ง. ไม่ต้องรอให้ครบ 1 ปี แล้วสั่งให้ออกจากราชการ
55. ใครไม่ได้เป็ น ก.ค.ศ.โดยตําแหน่ง
ก. เลขาธิการสภาการศึกษา ข. เลขาธิการ กพฐ.
ค. เลขาธิการคุรุสภา ง. เลขาธิการ กพ.
56. ใครเป็นประธาน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาได้
ก. ผู้ทรงคุณวุฒิ ข. ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา
ค. ผู้แทนคุรุสภา ง. ผู้แทน ก.คศ.
57. ใครมีหน้าที่เสนอแนะการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น
ก. คณะรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรี
ค. กระทรวงศึกษาธิการ ง. สภาการศึกษา

58. ในกรณีที่เขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถบริหารและจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานบางประเภทได้
หน่วยงานใดสามารถจัดเพื่อเสริมการบริหารและการจัดการศึกษาของเขตพื้นที่ได้
ก. สพฐ.
ข. สํานักงานปลัดกระทรวงหรือสํานักงานต่างๆ
ค. สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ง. สํานักงานคณะกรรมอาชีวศึกษา
59. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงศึกษาธิการหรือเลขาธิการ
ก. รับผิดชอบกำกับติดตามราชการประจําในกระทรวง
ข. แปลงนโยบายเป็นแนวทางและแผนปฏิบัติราชการ
ค. กำกับการทํางานของส่วนราชการในกระทรวงให้เกิดผลสัมฤทธิ์
ง. เร่งรัดติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงให้เป็นไปตามแผน
ของกระทรวง
60. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของสํานักงานปลัดกระทรวง
ก. ดําเนินการเกี่ยวกับราชการประจําของกระทรวง
ข. ประสานงานต่างๆในกระทรวง
ค. จัดทํางบประมาณและแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง
ง. ดําเนินการเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติที่มิได้อยูในอํานาจของส่วนราชการ
61. ใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสํานักงานเขตพื้นทีการศึกษาหรือในสถานศึกษาที่อยู่ใน
สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ก. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ข. เลขาธิการ สพฐ.
ค. ปลัดกระทรวง
ง. ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
62. อํานาจหน้าที่ของเลขาธิการ ข้อใดถูกต้อง

ก. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสํานักงานรองจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของข้าราชการในสํานักงาน
ค. จัดทําแผนพัฒนาของหน่วยงาน
ง. ถูกทุกข้อ
63. หมวดที่2 ของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวข้องกับเรื่องใด
ก. การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
ข. การจัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
ค. การจัดระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
ง. การปฏิบัติราชการแทนและการรักษาการแทน
64. การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ยึดเขตพื้นที่การศึกษา ยกเว้นการศึกษาตามข้อใด
ก. การศึกษานอกระบบ
ข. การศึกษาตามอัธยาศัย
ค. การศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายวาด้วยอาชีวศึกษา
ง. การศึกษาตลอดชีวิต
65. อํานาจหน้าที่ของสํานักเขตพื้นทีการศึกษา ข้อใดสําคัญที่สุด
ก. พัฒนาสาระของหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. พัฒนางานด้านวิชาการและจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในรวมกับการศึกษา
ค. การพิจารณาแบ่งส่วนราชการภายในสถานศึกษาและสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ปฏิบัติหน้าที่อืนตามที่กฎหมายกำหนด
66. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของสถานศึกษาหรือผู้อํานวยการสถานศึกษา
ก. การบริหารงานของสถานศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบายและวัตถุประสงค์ของ
สถานศึกษา
ข. ควบคุมดูแลบุคลากรการเงิน พัสดุ สถานที่และทรัพย์สินอื่นของสถานศึกษา
ค. การทํานิติกรรมสัญญาตามวงเงินงบประมาณที่สถานศึกษาได้รับ

ง. อนุมัติประกาศนียบัตรของสถานศึกษาตามระเบียบที่คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษากำหนด
67. การจัดการศึกษาในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคลข้อใดไม่ใช่
อํานาจหน้าที่ของรัฐมนตรี
ก. เสนอแนะการจัดสรรงบประมาณต่อคณะรัฐมนตรี
ข. ประสานการจัดการศึกษาระหวางสถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาที่เป็น
นิติบุคคลของรัฐ สถานศึกษาในกำกับสถานศึกษาเอกชนและสถานศึกษาระดับปริญญา
ค. เสนอแนะการจัดตั้ง ยุบรวมปรับปรุงและเลิกสถานศึกษา
ง. วางระเบียบการปฏิบัติราชการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกิจการต่างๆ
68. ให้มีการกระจายอํานาจและมอบอํานาจให้ ผอ.สพท.และ ผอ.สถานศึกษาภายใต้หลักการ
บริหารงานการศึกษา ยกเว้นข้อใด
ก. การให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับงบประมาณและการดําเนินการทางงบประมาณ
ข. การทํานิติกรรมสัญญาในวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติแล้ว
ค. การบรรจุแต่งตั้งและการเลื่อนตําแหน่ง
ง. หลักเกณฑ์การพิจารณาความดีความชอบ การพัฒนาและการดําเนินการทางวินัย
69. การเสนอนโยบายแผนและมาตรฐานการศึกษาของชาติที่บูรณาการศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและ
การกีฬากับการศึกษาทุกระดับ เป็นภารกิจขององค์กรใด
ก. สํานักงานปลัดกระทรวง
ข. สํานักงานเลขาธิการสภาศึกษา
ค. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. สํานักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
70. การจัดการส่งเสริมการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นภารกิจขององค์กรใด
ก.สํานักงานปลัดกระทรวง
ข. สํานักงานเลขาธิการสภาศึกษา
ค. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ง. สํานักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
71. การดําเนินการเกี่ยวกับกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ เป็นภารกิจขององค์กรใด
ก. สํานักงานปลัดกระทรวง
ข. สํานักงานเลขาธิการสถานศึกษา
ค. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. สํานักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
72.ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของสํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ก. พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติ
ข. ประสานการจัดทําข้อเสนอนโยบายแผนและมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ
ค. ดําเนินการเกี่ยวกับการประเมินผลการจัดการศึกษาตามแผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. ดําเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นหรือคําแนะนําในเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับการศึกษา
73.ข้อไม่ใช่ส่วนราชการในสํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ก. สํานักประเมินผลการจัดการศึกษา
ข. สํานักพัฒนากฎหมายการศึกษา
ค. สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
ง. สํานักวิจัยและพัฒนาการศึกษา
74.ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. พิจารณาเสนอนโยบาย แผนพัฒนาการศึกษา มาตรฐานการจัดการศึกษาและหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของแต่ละพื้นที่การศึกษา
ค. ประสานส่งเสริมสนับสนุนและกำกับดูแลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานการศึกษาเพื่อคนพิการ
ผู้ด้อยโอกาสและผู้มีความสามารถพิเศษ
ง. ประสานส่งเสริมการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบุคคล
ครอบครัวและสถาบันทางสังคมอื่น

75. ข้อใดไม่ใช่ส่วนราชการใน สพฐ
ก. สํานักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. สํานักงานส่งเสริมการศึกษเอกชน
ค. สํานักเทคโนโลยีเพือการเรียนการสอน
ง. สํานักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา
76. ข้อใดไม่ใช่การรักษาวินัย
ก. ต้องปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ข. ต้องตรงต่อเวลา อุทิศเวลาของตนให้แก่ทางราชการและผู้เรียน
ค. ต้อนรับให้ความสะดวก ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เรียนและประชาชนผู้มาติดต่อราชการ
ง. กลั่นแกล้งกล่าวหาหรือร้องเรียนผู้อื่นโดยปราศจากความจริง
77. ข้อใดไม่ใช่ความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ก. การให้ทรัพย์สิน เพื่อให้ตนเองได้รับการแต่งตั้งโดยมิชอบหรือเสื่อมเสียความเที่ยงธรรม
ข. เป็นกรรมการผู้จัดการหรือผู้จัดการในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
ค. เล่นการพนันเป็นอาจิณหรือกระทําการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียนหรือนักศึกษา
ง. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกนเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันควร
78. โทษทางวินัยได้แก่ข้อใด
ก. ว่ากล่าวตักเตือน ข. พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ค. ยกข้อกล่าวหา ง. ภาคทัณฑ์

79. ข้อใดไม่ใช่โทษทางวินัย
ก. ลดขั้นเงินเดือน

ข. ให้ออก
ค. ปลดออก ง. ไล่ออก

80. กรณีใดมีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญเสมือนวาลาออกจากราชการ
ก. ลดขั้นเงินเดือน ข. ให้ออก
ค. ปลดออก ง. ไล่ออก

81. ในการดําเนินการทางวินัย ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ความเห็นขัดแย้งกันในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเขตพื้นที่การศึกษาเดียวกันให้ ผอ.
สพท.เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ข. ความเห็นขัดแย้งระหวางผู้มีอํานาจต่างเขตพื้นที่ให้ เลขาธิการ กพฐ.เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ค. ความเห็นขัดแย้งต่างส่วนราชการ ให้ รมต. วินิจฉัยชี้ขาด
ง. กรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยไม่ชักช้า
82. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ไล่ออก ถ้ามีเหตุผลอันควรลดหยอนผ่อนโทษ ห้ามมิให้ลดโทษตํ่ากว่าปลดออก
ข. การลงโทษภาคทัณฑ์ให้ใช้เฉพาะกรณีกระทําผิดวินัยเล็กน้อยหรือมีเหตุอันควรลดหยอน ่
ค. กระทําความผิดเล็กน้อยและมีเหตุอันควรงดโทษ จะงดโทษให้โดยทําทัณฑ์บนเป็นหนังสือ
ง. ทําผิดวินัยไม่ร้ายแรง ให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษ ให้ออก หรือปลดออก
83. ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนหรือผู้มีอํานาจเห็นวาข้าราชการครูและบุคลากรรายใดกระทํา
ผิดวินัยอยางร้ายแรง สมควรลงโทษปลดออก หรือไล่ออก ข้อใดถูก
ก. ผอ.สพท./รอง ผอ.สพท. ขึ้นไป ให้เสนอ กคศ. พิจารณา
ข. ผอ.สถานศึกษาหรือครูมีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ให้เสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่พิจารณา
ค. ผู้ใดถูกกล่าวหาวากระทําผิดวินัยอยางร้ายแรง ได้ออกจากราชการไปแล้ว ให้ผู้มีอํานาจสั่งยุติเรื่อง
ง. ครูผู้ช่วย ทําผิดวินัยในระหว่างเตรียมความพร้อม ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวน
84. เมื่อผู้บังคับบัญชาได้ดําเนินการทางวินัย การดําเนินการตามข้อใดถูกต้อง
ก. การรายงานการดําเนินการทางวินัยไม่ร้ายแรงของผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผอ.สพท.ลงมาให้รายงาน
ไปยัง ผอ.สพท.
ข. การรายงานการดําเนินการวินัยอย่างร้ายแรงของผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ ผอ.สพท. ลงมาให้รายงาน
ไป ผอ.สพท. และ กคศ.
ค. การดําเนินการทางวินัยของผู้บังคับบัญชาเหนือ ผอ.สพท. ขึ้นไป ให้รายงาน กคศ.พิจารณา
ง. ถูกทุกข้อ

85. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ผู้ใดถูกสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ให้มีสิทธิอุธรณ์ต่อ กคศ.ภายใน 30 วัน
ข. ผู้ใดถูกสั่งลงโทษปลดออก ไล่ออก หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการ ให้มีสิทธิอุธรณ์หรือร้องทุกข์
ต่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน และให้ ก.ค.ศ. พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
ค. ผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้มีสิทธิอุธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน
ง. กรณีที่มิได้บัญญัติให้มีสิทธิอุธรณ์หรือร้องทุกข์ได้ ยอมมีสิทธิฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครอง
86. พ.ร.บ. เงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจําตําแหน่ง ประกาศใช้บังคับเมื่อใด
ก. 19 ธ.ค. 47 ข. 20 ธ.ค. 47
ค. 23 ธ.ค. 47 ง. 24 ธ.ค. 47
87. เกี่ยวกับ พรบ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ตําแหน่งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ให้นําบัญชีอัตราเงินเดือน เงินประจําตําแหน่ง ของ
ข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข. ค.ร.ม. พิจารณาปรับปรุงเงินเดือน เงินวิทยฐานะ เงินประจําตําแหน่ง เงินเพิ่มค่าครองชีพ
สวัสดิการหรือประโยชน์เกื้อกูล
ค. การปรับอัตราเพิ่มร้อยละเท่ากนทุกอัตรา ให้กระทําโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
ง. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตาม พรบ.
88. พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ให้ไว้ ณ วันที่24 พฤษภาคม พ.ศ. 2546
ข. ประกาศใช้บังคับ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2546
ค. ข้อบังคับของคุรุสภา ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี
ง. ร่างข้อบังคับ ถ้า รมต. ยับยั้งให้คณะกรรมการคุรุสภาประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน 30 วัน
89. คณะกรรมการคุรุสภา ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการ
ข. กรรมการโดยตำแหน่งจํานวน 8 คน

ค. กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งจากผู้ดํารงตําแหน่งคณบดีคณะคุรุศาสตร์ 4 คน
ง. กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา 19 คน
90. ใครไม่ได้เป็นกรรมการกรรมการคุรุสภาโดยตําแหน่ง
ก. เลขาธิการสภาการศึกษา
ข. เลขาธิการ กคศ.
ค. ผอ.สํานักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ง. ผอ.สมศ.
91. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติทั่วไปของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ก. มีสัญชาติไทย
ข. มีอายุไม่ตํ่ากว่า 35 ปี บริบูรณ์
ค. มีความซื่อสัตย์และยุติธรรมเป็นที่ประจักษ์
ง. มีวุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรี
92. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะต้องห้ามของผู้ทรงคุณวุฒิ
ก. เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
ข. เป็นเจ้าหน้าที/ลูกจ้าง/ผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีสัญญาจ้างกบคุรุสภาหรือ สก ั .สค.
ค. เคยมีประวัติเสื+อมเสียทางจริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
ง. ไม่เป็ นบุคคลล้มละลาย
93. อํานาจหน้าที่ของกรรมการคุรุสภาข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. บริหารและดําเนินการตามวัตถุประสงค์และอํานาจหน้าที่ของคุรุสภา
ข. ให้คําปรึกษาแนะนําแก่คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ค. พิจารณา วินิจฉัย อุธรณ์ คําสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ง. พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
94. ข้อกำหนดเกี่ยวกับคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ประธานกรรมการ ครม. แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา

ข. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน
ค. เลขาธิการ กคศ.เป็นกรรมการโดยตําแหน่ง
ง. กรรมการจากคณาจารย์เลือกกันเอง 2 คน
95. อํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ข้อใดสําคัญที่สุด
ก. พิจารณาการออก การพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ข. กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ค. ส่งเสริม พัฒนา และเสนอแนะคณะกรรมการคุรุสภา
ง. ส่งเสริม ยกย่อง และพัฒนาวิชาชีพไปสู่ความเป็นเลิศในสาขาต่างๆ
96. กรรมการคุรุสภาสามารถดํารงตําแหน่งเป็นกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ และกรรมการส่งเสริม
สวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ในองค์ประกอบใดได้
ก. เป็นประธานกรรมการและเป็นกรรมการโดยตําแหน่ง
ข. เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ค. กรรมการจากคณาจารย์ในคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน
ง. กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาซึ่งเลือกตั้งจากผู้ประกอบวิชาชีพ
97. ใครสามารถประกอบวิชาชีพควบคุมได้
ก. ผู้ทําการฝึกหัดหรืออบรมในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ข. ผู้ที่ทําหน้าที่สอนในศูนย์การเรียน
ค. ผู้บริหารสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
ง. ผู้บริหารการศึกษาระดับเขตพื้นทีการศึกษา
98. คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุม ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. มีสัญชาติไทย
ข. มีอายุไม่ตํ่ากว่า 20 ปี บริบูรณ์
ค. มีคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษาหรือเทียบเท่าคุณวุฒิอื่นทีคุรุสภารับรอง
ง. ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาไม่น้อยกวาหนึ่งปี 

99. ลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาต ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
ข. เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ค. เคยต้องโทษจําคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นวาอาจนํำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ แห่งวิชาชีพ
ง. เป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งศาลยังไม่สั่งให้พ้นคดี
100. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. การขอรับใบอนุญาต การออก การต่อ การขอรับใบแทนใบอนุญาต เป็นต้น ให้เป็นไปตาม
หลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อบังคับของคุรุสภา
ข. ผู้ขอรับ ผู้ขอต่อ/ผู้ขอรับใบแทนใบอนุญาต ซึ่งคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพพิจารณาวินิจฉัย
ไม่อนุญาต อาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการคุรุสภาภายใน 30 วัน
ค. ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุรุสภา ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 20,000
บาท
ง. สถานศึกษารับผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตเข้าประกอบวิชาชีพควบคุมในสถานศึกษา จําคุกไม่เกิน 1 ปี

เฉลย ข้อสอบกฎหมาย ชุดที+ 1 1. ง 2. ก3. ก 4. ข 5. ก 6. ค 7. ข 8. ง 9. ง 10. ค 11. ข 12. ค 13. ง 14.
ก 15. ง 16. ข 17. ง 18. 19. ข 20. ง 21. ค 22. ค 23. ข 24. ข 25. ก 26. ค 27. ก 28. ข 29. ข 30. ก 31. ข
32. ง 33. ค 34. ง 35. ข 36. ง 37. ง 38. ข 39. ง 40. ง 41. ข 42. ข 43. ก 44. ก 45. ข 46. ข 47. ก 48. ง
49. ง 50. ง 51. ข 52. ค 53. ก 54. ข 55. ก 56. ก 57. ข 58. ข 59. ก 60. ก 61. ข 62. ง 63. ข 64. ค 65. ง
66. ง 67. ค 68. ค 69. ข 70. ค 71. ก 72. ก 73. ค 74. ก 75. ข 76. ก 77. ข 78. ง 79. ข 80. ค 81. ง 82. ง
83. ก 84. ง 85. ก 86. ค 87. ง 88. ข 89. ก 90. ง 91. ง 92. ง 93. ง 94. ก 95. ข 96. ก 97. ง 98. ก 99. ง
100. ง
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น