แนวข้อสอบพรบ.กฎหมายการศึกษาที่ใช้สอบครูผ้ช่วยทุกหน่วยราชการชุดที่ 3 1. กรรมการใน กคศ.ข้อใดที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน
ก. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ข. มีวุฒิการศึกษา
ค. มีประสบการณ์ ง. ความซื่อสัตย์ ยุติธรรม
2. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของ กคศ.
ก. เสนอแนะและให้คําปรึกษาแก่ ครม.
ข. กำหนดจํานวนและอัตราตําแหน่ง
ค. การเสริมสร้างขวัญกำลังใจ และการยกย่องเชิดชูเกียรติ
ง. รับรองคุณวุฒิของผู้ได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ
3. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของ กคศ.
ก. พิจารณาตั้ง อกคศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ข. จัดทําทะเบียนประวัติและแก้ไขทะเบียนประวัติ
ค. ควบคุมการเกษียณอายุของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. ยับยั้งการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม
4. ข้อใดไม่อํานาจหน้าที่ของสํานักงาน กคศ.
ก. วิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ข. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติตาม พรบ.ฉบับนี้
ค. พัฒนาระบบข้อมูล
ง. กำหนดอัตราค่าธรรมเนียม
5. ประธานอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ใครเป็นคนแต่งตั้ง
ก. ประธาน กคศ. ข. ผอ.สพท.
ค. เลือกกันเอง ง. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
6. ใครเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.โดยตําแหน่ง
ก. ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษา ข. ผู้แทน กคศ.
ค. ผอ.สพท. ง.คุรุสภา | |
7. อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีจํานวนทั้งหมดมีกี่คน |
ก. 12 คน | ข. 4 คน |
ค. 5 คน | ง. 9 คน |
8. คุณสมบัติของ อกคศ.เขตพื้นที่การศึกษาข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
ข. ผู้แทนข้าราชการครูต้องมีวิทยฐานะไม่ตํ่ากว่าครูชํานาญการ
ค. ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่นต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรี
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิ และ ผู้แทน กคศ. ต้องเป็นข้าราชการครู
9. อํานาจหน้าที่ของ อกคศ.เขตพื้นทีการศึกษา ข้อใดสําคัญที่สุด
ก. กำหนดจํานวน อัตราตําแหน่ง และเกลี่ยอัตรากำลังให้สอดคล้องกับนโยบายระเบียบ
ข. ให้ความเห็นชอบการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ค. ให้ความเห็นชอบการพิจารณาความดีความชอบของผู้บริหาร ข้าราชการครู
ง. พิจารณาดําเนินการทางวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์
10. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ก. ยกย่องเชิดชูเกียรติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ข. กำกับ ดูแลติดตามและประเมินผลการบริหารงานบุคคล
ค. จัดทําและพัฒนาฐานข้อมูล
ง. จัดทํามาตรฐานคุณภาพงาน
11. อํานาจหน้าที่ของ ผอ.สพท.ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. เสนอแนะการบรรจุและแต่งตั้งและการบริหารงานบุคคล
ข. พิจารณาความดีความชอบของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา
ค. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนา การเสริมสร้างขวัญกำลังใจ
ง. จัดทําแผนและส่งเสริมการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากร
12. อํานาจหน้าที่ของผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ข้อใดถูกต้อง
ก. กำหนดนโยบายการบริหารงานบุคคล
ข. จัดทํามาตรฐานคุณภาพงาน กาหนดภาระงานขั้นตํ่า
ค. ปกป้องระบบคุณธรรม
ง. การจัดสวัสดิการ
13. อํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถานศึกษา ข้อใดสําคัญที่สุด
ก. กำกับดูแลการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษา
ข. เสนอความต้องการจํานวนและอัตราตําแหน่ง
ค. ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
ง. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการพัฒนา
14. ข้อใดไม่ใช่อํานาจหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษา
ก. ควบคุมดูแลให้การบริหารงานบุคคล
ข. พิจารณาความดีความชอบของข้าราชการครูและบุคลากรในสถานศึกษา
ค. จัดทํามาตรฐาน ภาระงานขั้นต่ำสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. ประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐาน
15. การดําเนินการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูให้ยึดหลักการข้อใดสําคัญที่สุด
ก. หลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ข. ระบบคุณธรรม
ค. ความเสมอภาคระหว่างบุคคล
ง. การได้รับการปฏิบัติและคุ้มครองสิทธิอยางเสมอภาคเท่าเทียมกัน
16. การเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกรณีใดที่ไม่ได้กำหนดไว้
ก. ถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ภาษา ข. เพศ อายุ สุขภาพ สถานภาพของบุคคล
ค. ฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาอบรม ง. ความคิดเห็นทางการเมือง
17. คุณสมบัติทัวไปของผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาข้อใด
ถูกต้อง ก. มีสัญชาติไทย | ข. มีอายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี |
ค. เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น | ง. ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ |
18. คุณสมบัติทั่วไปข้อใด ที่สามารถเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้
ก. ถูกสั่งพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ข. ถูกลงโทษจําคุกเพราะความผิดที่ได้กระทําโดยประมาท
ค. เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี
ง. เป็นบุคคลล้มละลาย
19. ข้อใดไม่ใช่ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ก. ตําแหน่งผู้สอน ข. ตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา
ค. ตําแหน่งผู้บริหารการศึกษา ง. ตําแหน่งศึกษานิเทศก์
20. ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ก. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ตําแหน่งผู้ช่วยครู ข. ตําแหน่งครู
ค. ตําแหน่งอาจารย์ ง. ตําแหน่งศาสตราจารย์
21. ตําแหน่งครูและบุคลากรทางการศึกษาข้อใดจะให้มีในหน่วยงานการศึกษาใดก็ได้
ก. ตําแหน่งครู ข. ตําแหน่งอาจารย์
ค. ตําแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ง. ตําแหน่งศาสตราจารย์
22. ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ข. ตําแหน่งใดให้มีใน
สถานศึกษาและหน่วยงานการศึกษาตามประกาศกระทรวง
ก. รองผู้อํานวยการสถานศึกษา ข. รอง ผอ.สพท.
ค. ศึกษานิเทศก์ ง. รองอธิการบดี
23. ตําแหน่งใดต่อไปนี้เรียกชื่อที่มีวิทยฐานะไม่ถูกต้อง
ก. ครูชํานาญการพิเศษ
ข. รองผู้อํานวยการสถานศึกษาชํานาญการ
ค. รองผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชี่ยวชาญ
ง. ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ
24.ตําแหน่งใดต่อไปนี้ที่ไม่มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
ก. ครู ข. ศึกษานิเทศก์
ค. ผอ.สถานศึกษา ง. รอง ผอ.สถานศึกษา
25. ให้ กคศ.จัดทํามาตรฐานตําแหน่ง มาตรฐานวิทยฐานะ คํานึงถึงข้อใดเป็นอันดับแรก
ก. มาตรฐานวิชาชีพ
ข. คุณวุฒิการศึกษา การอบรม
ค. ประสบการณ์ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน
ง. คุณภาพการปฏิบัติงานหรือผลงาน
26. กรณีต้องบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความชํานาญ เชี่ยวชาญระดับสูง ข้อใด
ถูกต้อง
ก. บรรจุและแต่งตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้
ข. อาจคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งโดยวิธีอื่นก็ได้
ค. มีเหตุผลและความจําเป็นอยางยิ่งเพื่อประโยชน์แก่ราชการ ขอความเห็นชอบจาก อกคศ.เขต เพื่อ
ขออนุมัติ กคศ.
ง. เพื่อประโยชน์แก่ราชการ
27. การบรรจุและแต่งตั้ง ผู้อํานวยการเชี่ยวชาญพิเศษ ข้อใดทําได้ถูกต้อง
ก. ได้รับอนุมัติ กคศ.แล้ว เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้ง รมต.เสนอ นายกรัฐมนตรีเพื่อกราบบังคม
ทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้ง
ข. เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้งโดย กคศ.เห็นชอบ
ค. รมต.เจ้าสังกัดบรรจุแต่งตั้ง โดยได้รับอนุมัติจาก กคศ.
ง. อนุมัติ กคศ.แล้ว ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของส่วนราชการบรรจุโดย รมต.เจ้าสังกัดเสนอ
นายกรัฐมนตรีเพื่อนํากราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้ง
28. การบรรจุและแต่งตั้ง รอง ผอ.สพท. เป็นอํานาจของใคร
ก. ผอ.สพท.โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ข. อ.ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง
ค. เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ ก.ค.ศ.
ง. ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว เลขาธิการ กพฐ.บรรจุแต่งตั้ง
29. การบรรจุและแต่งตั้ง ครูผู้ช่วย ครู และบุคลากรทางการศึกษาอื่นในสถานศึกษา ใครมีอํานาจ
บรรจุแต่งตั้ง
ก. อ.ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง
ข. ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นทีการศึกษา
ค. ผอ.สถานศึกษา บรรจุแต่งตั้งโดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นทีการศึกษา
ง. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติแล้ว ผอ.สถานศึกษาบรรจุแต่งตั้ง
30. ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อํานวยการสถานศึกษา ใครบรรจุแต่งตั้ง
ก. อ.ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง
ข. ผอ.สพท.บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ค. ผอ.สถานศึกษา บรรจุแต่งตั้ง โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ง. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติแล้ว ผอ.สถานศึกษาบรรจุแต่งตั้ง
31. คณะกรรมการสรรหาผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีทั้งหมดกี่คน
ก. จํานวน 5 คน ข. จํานวน 6 คน
ค. จํานวน 7 คน ง. จํานวน 8 คน
32. ใครเป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ผอ.สพท.
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ง. เลขาธิการ กพฐ.
33. ใครไม่ได้เป็นคณะกรรมการสรรหา ผอ.สพท
ก. เลขาธิการสภาการศึกษา
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ค. เลขาธิการคุรุสภา
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
34. การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะใด เลื่อนเป็นวิทยฐานะใด ต้อง
เป็นไปตามมาตรฐานวิทยฐานะซึ่งผานการประเมินองค์ประกอบใดไม่ได้กำหนดไว้
ก. ความประพฤติด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ
ข. ประสบการณ์ คุณภาพการปฏิบัติงาน ความชํานาญ ความเชี่ยวชาญ
ค. ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ในด้านการเรียนการสอน
ง. ผลงานทางวิชาการ
35. ให้มีการประเมินตําแหน่งและวิทยฐานะสําหรับตําแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็น
ระยะๆกรณีที่ผู้ใดไม่ผ่านการประเมิน มาตรการข้อใดไม่ได้กำหนดไว้
ก. การพัฒนา ข. การเลื่อนขั้นเงินเดือน
ค. การสั่งให้ออกจากราชการ ง. การพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
36. ผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตําแหน่งครูผู้ช่วย ให้ดําเนินการอย่างไร
ก. ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี
ข. เตรียมความพร้อมในตําแหน่งครูผู้ช่วยเป็นเวลา 1 ปี
ค. ให้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นเวลา 2 ปี
ง. เตรียมความพร้อมและพัฒนาอยางเข้มเป็นเวลา 2 ปี
37. ในระหว่าง เตรียมความพร้อม มีผลการประเมินตํ่ากว่าเกณฑ์ กคศ .กำหนด ต้องให้ครบกำหนดปี
หรือไม่และดําเนินการอย่างไร
ก. ไม่ต้องครบกำหนดให้สั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการได้
ข. ต้องให้ครบกำหนดเวลาเตรียมความพร้อมก่อน จึงสั่งให้ออกจากราชการได้
ค. ไม่ต้องครบ แต่ให้เตรียมความพร้อมใหม่
ง. ต้องให้ครบกำหนดแต่ให้แต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
38. การโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นและข้าราชการอื่นมาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู ต้อง
คํานึงถึงข้อใด
ก. เจ้าตัวสมัครใจที่จะโอน
ข. ผู้มีอํานาจที่ประสงค์จะรับโอนทําความตกลงกับผู้บังคับบัญชาเดิม
ค. ความรู้ความสามารถ
ง. ประโยชน์ที่หน่วยงานการศึกษานั้นจะได้รับ
39. การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้อใดเป็นเงื่อนไขประกอบการพิจารณาของ อ.
ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ก. ต้องได้รับความเห็นชอบจาก อกคศ.เขตพื้นที่ของผู้ขอย้ายและผู้รับย้าย
ข. ให้มีการประสานงานระหวาง อกคศ. เขตพื้นที่การศึกษา
ค. ให้สถานศึกษาโดยคณะกรรมการสถานศึกษาเสนอความเห็นประกอบ
ง. ให้คณะกรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ
40. หลักการให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งไม่เกิน 4 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี ให้ ก.ค.ศ.ดําเนินการกับ
ตําแหน่งใด
ก. ตําแหน่งที่กำหนดมิได้กำหนดให้มีวิทยฐานะ
ข. ตําแหน่งที่มีลักษณะบริหารตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด
ค. ตําแหน่ง ผอ.สพท.
ง. ตําแหน่ง ผอ.สพท.และตําแหน่งที่มีลักษณะบริหาร
41. ตามมาตรา 68 ถ้าตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาว่างลงหรือผู้ดํารงตําแหน่งไม่
สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ การที่ผู้มีอํานาจสั่งให้ข้าราชการครูอื่นไปแทน ข้อใดถูกต้อง
ก. รักษาราชการแทน ข. ปฏิบัติหน้าที่แทน
ค. รักษาการในตําแหน่ง ง. ทําการแทน
42. ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงาน หลักการตามข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. การปฏิบัติตนเหมาะสม
ข. ปฏิบัติราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
ค. มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
ง. คํานึงถึงปริมาณและคุณภาพของงาน
43. บําเหน็จความชอบ ไม่รวมถึงข้อใด
ก. บันทึกคําชมเชย ข. รางวัล
ค. เครื่องเชิดชูเกียรติ ง. การเลื่อนตําแหน่ง
44. การเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้ง
คณะกรรมการขึ้นพิจารณาโดยยึดหลักตามข้อใดเป็นอันดับแรก
ก. หลักคุณธรรม มีความเที่ยงธรรม
ข. เปิดเผยโปร่งใสและผลการปฏิบัติงาน
ค. ความประพฤติในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ง. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
45. ในการเลื่อนขั้นเงินเดือน ให้พิจารณาจากข้อใดเป็นพิเศษ
ก. หลักคุณธรรม มีความเที่ยงธรรม
ข. เปิดเผยโปร่งใสและผลการปฏิบัติงาน
ค. ความประพฤติในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ง. ผลการปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
46. กคศ.กาหนดขั้นเงินเดือนประสิทธิภาพ กำหนดไว้สําหรับตําแหน่งใด
ก. ตําแหน่งที่มีวิทยฐานะ ข. ผู้ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์
ค. ผู้ทีได้รับการยกยองเชิดชูเกียรติ ง. ตําแหน่งที่มีวิทยพัฒน์
47. ก่อนมอบหมายหน้าที่ให้ผู้บังคับบัญชาดําเนินการแจ้งข้อใดไม่ใช่
ก. ภาระงาน มาตรฐานคุณภาพงาน มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพ
ข. เกณฑ์การประเมินผลงาน ระเบียบแบบแผนหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติราชการ
ค. บทบาทหน้าที่ของข้าราชการในฐานะพลเมืองดี
ง. สมรรถนะหลักและสมรรถนะประจําสายงาน
48. ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาตามข้อใดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ก. ปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดี
ข. พัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
ค. ส่งเสริมสนับสนุนให้ไปศึกษา ฝึ กอบรมดูงาน
ง. อนุญาตให้ลาไปศึกษาโดยได้รับเงินเดือนระหว่างลา
49. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีสิทธิได้เลื่อนขั้นเงินเดือนในระหว่างลาไปศึกษา
ฝึกอบรม/วิจัยกรณีใดบ้าง
ก. มีความจําเป็น หรือเป็นความต้องการของหน่วยงาน
ข. เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาหรือวิชาชีพ
ค. คุณวุฒิขาดแคลน
ง. ถูกทุกข้อ
50. ข้อใดไม่ใช่การรักษาวินัย
ก. สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ข. ความซื่อสัตย์สุจริตเสมอภาคและเที่ยงธรรม
ค. ส่งบุคลากรเข้ารับการพัฒนาระเบียบวินัยของข้าราชการ
ง. การอุทิศเวลาให้แก่ทางราชการ
51. ในกรณีที่เห็นว่าการปฏิบัติตามคําสั่งของผู้บังคับบัญชาจะทําให้เสียหายแก่ราชการ จะเสนอ
ความคิดเห็นเป็นหนังสือเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคําสั่งภายในกี่วัน
ก. ภายใน 3 วัน ข. ภายใน 7 วัน
ค. ภายใน 15 วัน ง. ภายใน 30 วัน
52. ข้อใดไม่ใช่ความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ่
ก. การละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลา 15 วันขึ้นไป
ข. การซื้อขาย/ให้ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง/วิทยฐานะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ค. คัดลอก/ลอกเลียนผลงานของผู้อื่น/รับจัดทําผลงานทางวิชาการ
ง. เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการซื้อสิทธิขายเสียงในการเลือกตั้ง
53. ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ในการพัฒนาวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชา ตามข้อใด
ก. เสริมสร้างและพัฒนา ข. ป้องกัน
ค. ดําเนินการทางวินัย ง. ถูกทุกข้อ
54. ข้อใดเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้อยูใต้บังคับบัญชาให้มีวินัยในสถานการณ์ปัจจุบัน
ก. ปฏิบัติตนเป็นแบบอยางที่ดี ข. การฝึกอบรม
ค. การเสริมสร้างขวัญและกำลังใจ ง. การจูงใจ การพัฒนา
55. การป้องกัน มิให้ผู้อยูใต้บังคับบัญชากระทําผิดวินัย ยกเว้นกรณีใด
ก. การเอาใจใส่ ข. การสังเกตการณ์
ค. การขจัดเหตุที่อาจก่อให้เกิดการทําผิดวินัย ง. การดําเนินการทางวินัย
56. ข้อใดไม่ใช่โทษทางวินัย
ก. ทัณฑ์บน ข. ตัดเงินเดือน
ค. ลดขั้นเงินเดือน ง. ไล่ออก
57. ข้อใดเป็นโทษทางวินัยอยางร้ายแรง
ก. ให้ออก ข. ปลดออก
ค. ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ง. ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน
58. การดําเนินการทางวินัยซึ่งมีกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัย ให้ทํา ตามข้อใดเป็ น
อันดับแรก
ก. แจ้งข้อกล่าวหา ข. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ค. สรุปพยานหลักฐานให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ ง. ดําเนินการทางวินัยทันที
59. กรณีมีความเห็นขัดแย้งในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนระหว่างผู้มีอํานาจต่างเขตพื้นที
การศึกษาใครเป็นผู้มีอํานาจวินิจฉัยชี้ขาด
ก. ผอ.สพท. ข. เลขาธิการ กพฐ.
ค. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ง. ก.ค.ศ.
60. การลงโทษภาคทัณฑ์ให้ใช้ในกรณีใด
ก. การทําผิดวินัยเล็กน้อย ข. มีเหตุอันควรลดหย่อน
ค. ไม่ถึงกับจะต้องถูกลงโทษตัดเงินเดือน ง. ถูกทุกข้อ
61. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญลงมา กระทําผิดวินัยอย่าง
ร้ายแรงต้องเสนอใครพิจารณา
ก. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ข. ก.ค.ศ.พิจารณา
ค. ผู้มีอํานาจสั่งบรรจุ ง. ผอ.สพท.
62. การดําเนินการทางวินัยไม่ร้ายแรงของผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ ผอ.สพท.ลงมา ให้รายงานถึงข้อใด
ก. ผอ.สพท. ข. อกคศ.เขตพื่นที่การศึกษา
ค. กคศ. ง. เลขาธิการ กพฐ.
63. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประสงค์จะลาออกจากราชการ ต้องขอลาออกไม่น้อย
กวากี่วัน
ก. 90 วัน ข. 30 วัน
ค. 60 วัน ง. 15 วัน
64. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และ
หน่วยงานการศึกษาของผู้นั้นมีตําแหน่งว่าง /ตําแหน่งอื่นทีไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่
ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าผู้นั้นมีความเหมาะสมที่จะได้รับการบรรจุแต่งตั้ง หน่วยงานการศึกษาจะต้อง
ได้รับแจ้งหนังสือเพิกถอนใบอนุญาตภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน
ค. 45 วัน ง. 60 วัน
65. กรณีที่หน่วยงานนั้นไม่มีตําแหน่งว่าง หรือตําแหน่งที่สามารถย้ายไปแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งได้
และอกคศ.เขตพื้นที่/กคศ.ไม่อนุมัติ จะมีผลตามข้อใด
ก. ดํารงตําแหน่งเดิมไปก่อน
ข. ขออุทธรณ์
ค. ไปช่วยราชการหน่วยงานอื่นชั่วคราว
ง. สั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการ
66. กรณีใดต่อไปนี้ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ ก. ถูกลงโทษภาคทัณฑ์ | ข. ถูกให้ออกจากราชการ |
ค. ถูกปลดออกจากราชการ | ง. ถูกไล่ออกจากราชการ |
67. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ให้ดําเนินการภายในกี่วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคําสั่ง
ก. ภายใน 15 วัน ข. ภายใน 30 วัน
ค. ภายใน 60 วัน ง. ภายใน 90 วัน
68. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์แตกต่างกันในข้อใด
ก. เหตุแห่งความผิด ข. ลักษณะแห่งความผิด
ค. องค์กรพิจารณาให้ความเป็นธรรม ง. อายุความ
69. การร้องทุกข์กรณีใดไม่สามารถทําได้
ก. ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ข. มีความคับข้องใจเนื่องจากการกระทําของผู้บังคับบัญชา
ค. การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
ง. การถูกลงโทษางวินัย
70. เมื่อ อกคศ.เขตพื้นที่ หรือ กคศ.ได้วินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์แล้ว ผู้ใด้เห็นว่าตนไม่ได้รับ
ความเป็นธรรมหรือมีกรณีที่มิได้บัญญัติให้มีสิทธิอุทธรณ์/ร้องทุกข์ ผู้นั้นมีสิทธิดําเนินการตามข้อ
ใดได้อีก
ก. ขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี ข. ขอความเป็นธรรมจากคณะรัฐมนตรี
ค. ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ง. ฟ้อง ปปช.
71. ใครมีอํานาจปรับปรุงเงินเดือน เงินวิทยฐานะเงินประจําตําแหน่ง เงินเพิ่มค่าครองชีพ สวัสดิการ
และประโยชน์เกื้อกูลสําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ก. ก.ค.ศ. ข. ค.ร.ม.
ค. นายกรัฐมนตรี ง. รมต.ศธ.
72. ตําแหน่งใดต่อไปนี้ได้รับเงินวิทยฐานะแตกต่างจากกลุ่มอื่น
ก. ตําแหน่งครู ข. ตําแหน่งศึกษานิเทศก์
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา ง. ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นทีการศึกษา
73. พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษามีผลใช้บังคับตามข้อใด
ก. 6 กรกฎาคม 2547 ข. 7 กรกฎาคม 2547
ค. 8 กรกฎาคม 2547 ง. 9 กรกฎาคม 2547
74. การจัดระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ข้อใดมิใช่
ก. การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
ข. การจัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นทีการศึกษา
ค. การจัดระเบียบบริหารราชการสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคล
ง. การจัดระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
75. ใครมีหน้าที่รักษาการตาม พรบ.นี้
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
76. ส่วนราชการตามข้อใดมิได้เป็นนิติบุคคล
ก. สํานักงานรัฐมนตรี ข. สํานักงานปลัดกระทรวง
ค. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ง. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั%นพื%นฐาน
76. การแบ่งส่วนราชการในสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั%นพื%นฐานดําเนินการตามข้อใด
ก. ประกาศกระทรวง ข. ออกเป็ นกฎกระทรวง
ค. ออกเป็ นพระราชกฤษฎีกา ง. ระเบียบ
77. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีจํานวนเท่าใด
ก. จํานวน 26 คน ข. ไม่เกิน 26 คน
ค. จํานวน 27 คน ง. ไม่เกิน 27 คน
78. การประกาศกำหนดเขตพื้นที่การศึกษาข้อใดถูกต้อง
ก. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของ กพฐ.
ค. รัฐมนตรีโดยคําแนะนําของสภาการศึกษา
ง. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการโดยความเห็นชอบของ ค.ร.ม.
79. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเกิดขึ้นตามข้อใด
ก. มาตรา 37 ข. มาตรา 38
ค. มาตรา 39 ง. มาตรา 40
80. พรบ.นี้ใครเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ก. ประธานวุฒิสภา ข. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ค. นายกรัฐมนตรี ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
81. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาในวันใด
ก. วันที่3 กรกฎาคม 2546 ข. วันที่ 4 กรกฎาคม 2546
ค. วันที่ 7 กรกฎาคม 2546 ง. วันที่ 6 กรกฏาคม 2546
82. พรบ.บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการมีทั้งหมดกี่หมวดกี่มาตรา
ก. 5 หมวด 72 มาตรา ข. 5 หมวด 82 มาตรา
ค. 5 หมวด 92 มาตรา ง. 5 หมวด 102 มาตรา
83. ข้อใดไม่ใช่หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรง
ก. สํานักงานเลขานุการรัฐมนตรี ข. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ค. สํานักงานปลัดกระทรวง ง. สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
84. การจัดระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
ข. ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
85. การกำหนดตําแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้คํานึงถึง
องค์ประกอบต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. คุณวุฒิ มาตรฐานวิชาชีพ ข. ประสบการณ์ คุณภาพของงาน
ค. ปริมาณและสภาพของงาน ง. ลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบ
86. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการไม่มีอํานาจในเรื่องใด
ก. ออกกฎกระทรวง ข. ออกระเบียบ
ค. ออกพระราชกฤษฎีกา ง. ออกประกาศกระทรวง
87. การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการข้อใดถูกต้อง
ก. สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือสํานักบริหารงาน
ข. สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการและส่วนราชการขึ้นตรงต่อ รมต.ศธ.
ค. สํานักงานปลัดกระทรวง ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ง. สํานักงานปลัดกระทรวง สพฐ. สกอ.สอศ. สกศ. และ กคศ.
88. ข้อใดไม่ใช่ส่วนราชการในส่วนราชการส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ
ก. สํานักงานรัฐมนตรี ข. สํานักงานปลัดกระทรวง
ค. สํานักงานสภาการศึกษาแห่งชาติ ง. สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
89. ส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการใด ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นกรม
ก. สํานักงานรัฐมนตรี ข. สํานักงานปลัดกระทรวง
ค. สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ง. สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
90. การแบ่งส่วนราชการในสํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ออกเป็นกฎหมายใด
ก. กฎกระทรวง | ข. ระเบียบ |
ค. ประกาศ | ง. พระราชกฤษฎีกา |
91. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ก. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ
ข. กำหนดนโยบาย
ค. กำหนดเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงาน
ง. กำหนดงบประมาณ
92. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของสภาการศึกษา
ก. พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติ
ข. พิจารณาเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา
ค. จัดสรรงบประมาณ
ง. ดําเนินการประเมินผลการจัดการศึกษา
93. สภาการศึกษา มีหน้าที่ให้ความเห็นหรือคําแนะนําในเรื่องใด
ก. งบประมาณ ข. แผนการศึกษาแห่งชาติ
ค. มาตรฐานการศึกษา ง. กฎหมายและกฎกระทรวง
94. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. พิจารณาเสนอหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การสนับสนุนทรัพยากร
ค. การเสนอจัดตั้งงบประมาณ
ง. การติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
95. ข้อใดไม่จัดอยูในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. ผู้แทนองค์กรเอกชน | ข. ผู้แทนคณะกรรมการกลางอิสลาม |
ค. ผู้แทนองค์กรศาสนาอื่น | ง. ผู้แทนคณะสงฆ์ |
96. สํานักงานรัฐมนตรีมีใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
ก. รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ ่ | ข. เลขานุการรัฐมนตรี |
ค. ปลัดกระทรวง | ง. เลขารัฐมนตรี |
97. ข้อใดไม่จัดอยูในการจัดระเบียบบริหารราชการของเขตพื้นที่การศึกษา
ก. สํานักงานเขตพื้นทีการศึกษา
ข. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับตํ่ากว่าปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
ง. ส่วนราชการที่เรียกชื่ออยางอื่น
98. การแบ่งส่วนราชการภายในของเขตพื้นที่การศึกษาออกเป็นกฎหมายใด
ก. กฎกระทรวง ข. ประกาศกระทรวง
ค. ประกาศสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ง. ระเบียบคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
99. สถานศึกษาใดมีฐานะเป็นนิติบุคคล
ก. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งหมด
ข. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จัดการศึกษาตํกว่าระดับปริญญา
ค. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับตํ่ากว่าปริญญาและระดับปริญญา
ง. สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเฉพาะที่เป็นโรงเรียน
100. ข้อใดไม่ใช่อํานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการและสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ก. กำกับ ดูแล จัดตั้งยุบรวมหรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. ประสาน ส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษาเอกชนในเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. สนับสนุนทรัพยากรให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษา
เฉลย
ข้อสอบกฎหมาย ชุดที่ 3 1. ง 2.ข 3. ข 4.ง 5. ค 6. ข 7.ข 8. ง 9.ก 10. ง 11. ค 12.ข 13. ก 14.ค 15.ก
16. ง 17.ก 18.ข 19.ง 20.ก 21. ก 22.ก 23. ข 24.ง 25. ก 26. ค 27. ง 28.ค 29.ค 30. ข 31.ค 32. ข 33.ง
34. ง 35.ง 36. ง 37. ก 38.ง 39.ค 40. ง 41. ก 42. ง 43. ง 44.ก 45.ง 46. ก 47.ง 48. ก 49. ง 50. ค 51. ข
52.ก 53. ง 54.ก 55.ง 56.ก 57.ข 58. ข 59.ข 60. ง 61.ก 62. ง 63. ข 64. ข 65.ง 66.ข 67.ข 68.ก 69.ง
70.ค 71. ข 72.ง 73. ข 74. ค 75.ข 76.ก 77.ข 78.ค 79.ข 80. ค 81. ง 82.ข 83.ก 84.ค 85.ก 86.ค 87.ข
88. ค 89.ก 90. ก 91.ง 92. ค 93. ง 94.ค 95.ข 96.ก 97. ค 98. ข 99. ง 100.ง
มีหนังสือเตรียมสอบครูผู้ช่วยทุกหน่วยราชการจำหน่ายราคาพิเศษ>> http://pakdee277.blogspot.com/2016/12/blog-post_28.html <<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น