วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แนวข้อสอบวิชาการศึกษาสอบครูผู้ช่วย สพฐ. กทม. เทศบาล อบต. อาชีวศึกษา



แนวข้อสอบวิชาการศึกษาสอบครูผู้ช่วย สพฐ. กทม. เทศบาล อบต.  อาชีวศึกษา
แนวข้อสอบความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาเฉพาะตำแหน่ง  วิชาการศึกษา
คำชี้แจง ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงหนึ่งคำตอบในแต่ละข้อ
1.หลักสูตรมีความหมายตรงกับข้อใด  
.คู่มือประกอบการศึกษาของครู                             ข. เอกสารกำหนดทิศทางให้ครูสอน
. มวลประสบการณ์ที่สถานศึกษาจัดให้ผู้เรียน        ง. เนื้อหาวิชาที่กำหนดให้ผู้เรียนเรียน
2.ความหมายของหลักสูตรในฐานะที่เป็นจุดมุ่งหมายปลายทางคือข้อใด
. หลักสูตร คือเนื้อหาสาระ                          ข. หลักสูตรคือหนังสือ
. หลักสูตร คือกิจกรรม                               ง. หลักสูตร คือมวลประสบการณ์
3. หลักสูตรแบบใดที่เน้นการถ่ายทอดเนื้อหาวิชาให้เรียนรู้เนื้อหาวิชามากๆ
. แบบสัมพันธ์วิชา                           ข. แบบเนื้อหาวิชา
. แบบสหวิทยาการ                         ง. แบบบูรณาการ
4. หลักสูตรแบบเนื้อหาวิชายึดแนวคิดปรัชญาการศึกษาแบบใด
. ปรัชญสารัตถนิยม                             ข.ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
. ปรัชญานิรันตรนิยม                           ง. ถูกทั้ง ข้อ ก และ ข
5.หลักสูตร ครอบคลุมชีวิตประจำวัน ครูไม่เป็นผู้ออกคำสั่ง ทำหน้าที่แนะแนวทาง ผู้เรียนมีอิสระในการเลือก ตัดสินใจ โรงเรียนเป็นแบบจำลองสังคม ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับปรัชญาข้อใด
. ปรัชญาสารัตถนิยม                          ข. ปรัชญานิรันตรนิยม
. ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม                 ง. ปรัชญาปฎิรูปนิยม
6.หลักสูตรแบบใดที่ยึดแนวคิดจากปรัชญาการศึกษาพิพัฒนาการนิยม
. หลักสูตรกิจกรรม                             ข. หลักสูตรแกนกลาง
. หลักสูตรเพื่อชีวิตและสังคม              ง. ถูกทั้ง ข้อ ก และ ข
7. ถ้าเรือหางยาวเปรียบเสมือนกับหลักสูตรแล้วหางเสือเปรียบเสมือนอะไร
. ความมุ่งหมาย                                ข. เนื้อหา
. กระบวนการเรียนการสอน               ค. การประเมินผล
8.การพัฒนาหลักสูตรควรเริ่มต้นจากการดำเนินการตามข้อใด
. การเลือกและจัดเนื้อหาวิชา                       ข. กำหนดจุดมุ่งหมาย
. การนำหลักสูตรไปใช้                                ง. การประเมินผลหลักสูตร
9.ข้อใด คือประโยชน์จากการพัฒนาหลักสูตรสำหรับครูผู้สอน
. พัฒนาการศึกษาให้สอดคล้องกับความเจริญ
. สามารถจัดการเรียนการสอนให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสังคมและโลก
. ประพฤติตัวเป็นพลเมืองดีของสังคม
.ครูเชี่ยวชาญการสอนมากขึ้น
10.การนำผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงหลักสูตร ตรงกับข้อใด
. จุดมุ่งหมาย           ข. เนื้อหา             ค. การนำหลักสูตรไปใช้        ง.การประเมินผล
. ผู้เรียนมีโอกาสฝึกและเรียนรู้                    ง. ประสบการณ์ ตอบสนองจุดประสงค์
11.ข้อใดกล่าวเรื่องหลักการสอนไม่ถูกต้อง
. สอนจากทฤษฎีไปหาตัวอย่าง                   ข. สอนจากง่ายไปหายาก
 ค. สอนจากรูปธรรมไปหานามธรรม            ง. สอนจากสิ่งใกล้ตัวไปหาไกลตัว
12.บลูม ( Bloom)  ได้แบ่งพฤติกรรมผู้มีการศึกษาโดยคาดหวังไว้ 3ลักษณะข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมของผู้มีการศึกษาที่คาดหวังของบลูม
. พุทธิพิสัย                                      ข. จิตพิสัย
. พัฒนพิสัย                                    ง. ทักษะพิสัย
13.การสอนแบบนิรนัย (Deductive Method)มีลักษณะตามข้อใด
. การสอนจากส่วนย่อยไปหาส่วนรวม
. การสอนจากส่วนรวมหาส่วนย่อย
. การสอนให้นักเรียนค้นความด้วยตนเอง
. การสอนแบบภาพรวม
14.การสอนแบบอุปนัย ( Inductive Method ) มีลักษณะตามข้อใด
. การสอนจากส่วนย่อยไปหาส่วนรวม
. การสอนจากส่วนรวมไปหาส่วนย่อย
. การสอนให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตนเอง
. การสอนแบบร่วมมือ
15.ขั้นตอนแรกของการสอนโดยวิธีการแก้ปัญหา
. กำหนดขอบเขตของปัญหา (Location of  Problem)
. ตั้งสมมุติฐาน ( Setting up of  Hyprothesis)
. วิเคราะห์ข้อมูล ( Analysis  of Data)
. ศึกษาสภาพผู้เรียน (Context)
16.สมุทัย ในวิธีการสอนแบบอริยสัจ 4 ตรงกับวิธีการสอนแบบวิทยาศาสตร์ข้อใด
.กำหนดปัญหาร                             ข. ตั้งสมมุติฐาน
. ทดลองและแก้ปัญหา                   ง. วิเคราะหืข้อมูล
17.นิโรธ ในวิธิการสอนของอริยสัจ 4ตรงกับวิธีสอนวิทยาศาสตร์ข้อใด
. กำหนดปัญหา                             ข. ตั้งสมมุติฐาน
. ทดลองและแก้ปัญหา                   ง. วิเคราะห์ข้อมูล
18.การจัดกิจกรรมการเรียนให้สอดคล้องกับการทำงานของสมองคือข้อใด
. 4 MAT. CIPPA  MODEL
. Six Thinking. PBL
19.ข้อใดไม่ได้เป็นกิจกรรม 4  MAT
. Why  . What.Where. If
20.Constructivityเป็นการจัดการเรียนรู้ตามข้อใด
.สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง                        ข. การศึกษาเป็นรายบุคคล
. บูรณาการ                                                 ง. แบบเน้นประสบการณ์
21.เพราะเหตุใดครูจึงต้องเข้าใจพัฒนาการเด็ก
. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาการของมนุษย์     ข.เพื่อนำความรู้ไปใช้ดูแลบุตร
. เพื่อช่วยครูในการปกครองบุตร                               ง. เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนการสอนได้สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย
22.ถ้าท่านสังเกตพบว่าเด็กนักเรียนมีพฤติกรรมผิดปกติ ท่านจะมีกระบวนการช่วยเหลืออย่างไร
. รีบพาไปพบจิตแพทย์                   ข. พาไปพบผู้ให้คำปรึกษาทันที
.หาข้อมูลเพิ่มแล้ววินิจฉัยสาเหตุ     ง. มอบผู้ปกครองให้ดำเนินการเอง
23.ข้อใดเป็นผลเสียต่อการพัฒนาเด็กมากที่สุด
. การเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัย                ข. การแสดงความรักใคร่สม่ำเสมอ
. การเร่งรัดพัฒนาการ                            ง. การปล่อยปละละเลย
24.การเริ่มปลูกฝังบทบาททางเพศให้สอดคล้องกับเพศธรรมชาติ ควรทำในวัยใด
. วัยเด็กทารก                          ข. วัยเด็กตอนต้น
. วัยเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น                  ง. วัยรุ่นตอนปลาย
25.ผู้ปกครองเปิดโอกาสให้ลูกวัยรุ่นพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้าน โดยแม่จัดอาหารเล็กๆน้อยๆเลี้ยงเพื่อนของลูกในโอกาสต่างๆ แสดงว่าผู้ปกครองส่งเสริมเรื่องใดแก่ลูก
. การส่งเสริมพัฒนาการทางกาย                 ข. การส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์
. การส่งเสริมพัฒนารทางสังคม                   ง. การส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา
26.ครูปฎิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์เรื่องการประหยัดพลังงานโดยเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟ แสดงว่าครูกำลังปลูกฝังลักษณะจิตอาสาแก่เด็กนักเรียนในข้อใด
. การส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย            ข. การส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์
. การส่งเสริมพัฒนาการทางสังคม               ง. การส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา
ให้ผู้ตอบอ่านข้อความต่อไปนี้เพื่อตอบคำถาม ข้อ 18กับ ข้อ 19
          เด็กชายไทยแท้ อายุ 14ปี ตามพ่อไปเก็บรวงผึ้งด้วยความอยากรู้ เขาเห็นพ่อพ่นควันจากยาสูบไปที่รวงผึ้ง สักครู่ผึ้งก็บินออกจากรวงจนหมด   เขาเห็นพ่อเก็บรวงผึ้งลงมาได้อย่างน่าทึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ลองเก็บรวงผึ้งด้วยวิธีเดียวกับพ่อ
27.แทนไทยเรียนรู้การเก็บรวงผึ้งด้วยวิธีการใด
. การลองผิดลองถูก                       ข. การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
. การวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ  ง. การสังเกตตัวแบบ
28.อะไรเป็นเป็นสิ่งที่ช่วยให้ไทยแท้เรียนรู้ได้เร็ว
. เขาเป็นเด็กฉลาด                       ข.เขามีความใส่ใจ เพราอยากรู้
. พ่อสนับสนุน                             ง. เขาต้องการทอาชีพขายน้ำผึ้ง
29.ข้อใดเป็นความเหมือนกัน ระหว่างการเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงลบที่สำคัญ
. การให้การเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงลบ ต้องให้ภายหลังที่เด็กแสดงพฤติกรรมเสมอ
. การได้รับการเสริมแรงบวกและเสริมแรงลบมีผลให้พฤติกรรมที่ได้รับการเสริมแรงของเด็กเกิดมากขึ้น
. ทั้งการเสริมแรงบวก และการเสริมแรงลบ สามารถนำมาใช้ยับยั้งพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็กได้
.ถูกทุกข้อ
30.การจูงใจให้ผู้เรียนด้วยกันให้รางวัลและการลงโทษที่ส่งผลดีต่อการเรียนรู้ ควรทำอย่างไร
.การให้รางวัลทันที  เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมได้สำเร็จตามเป้าหมายของการเรียนรู้
. การลงโทษทันทีเมื่อทำกิจกรรมล้มเหลว เพื่อให้นักเรียนหลาบจำ
. การให้รางวัลและการลงโทษ ควรทำอย่างเปิดเผย
เฉลย แนวข้อสอบ  วิชาเฉพาะตำแหน่ง ( วิชาการศึกษา )1.   2. 3.  4. 5.  6. 7. 8. 9.10. 11. 12. 13. 14. 15.16. 17 18.   19  20.  21.  22. 23. 24.  25.  26. 27. 28.29.30.
มีหนังสือเตรียมสอบครูผู้ช่วยทุกหน่วยราชการจำหน่ายราคาพิเศษ>> http://pakdee277.blogspot.com/2016/12/blog-post_28.html <<

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น