แนวข้อสอบครูผู้ช่วยสพฐ. วิชาการศึกษา ( จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว)
1.เพราะเหตุใดครูจึงต้องเข้าใจการพัฒนาการเด็ก
ก. เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย
ข. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ครูในการปกครองนักเรียน
ค. เพื่อให้ครูเข้าใจพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
ง. เพื่อให้ครูมีความรู้ในการพัฒนาการของมนุษย์
2. ความเหมือนกัน ระหว่างการเจริญเติบโต และ
การพัฒนาการ ตรงกับข้อใด
ก. เป็นการเพิ่มความสามารถเหมือนกัน
ข. เป็นการเพิ่มอายุเหมือนกัน
ค. เป็นการเพิ่มความสูงเหมือนกัน
ง. เป็นการนำไปสู่วุฒิภาวะเหมือนกัน
3. ผลการเรียนรู้ ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ลมพัดฝุ่นลอยมาเอามือปิดจมูก
ข. ไม่เดินเข้าหากองไฟ
ค. เหยียบเบรคเมื่อเห็นคนข้ามทางม้าลาย
ง. เหยียบก้นบุหรี่แล้วชักเท้าหนี
4. วุฒิภาวะ
คือ กระบวนการที่ทำให้อินทรีย์บรรลุถึงขีดความเจริญงอกงามเต็มที่ในระยะหนึ่งของชีวิต
ข้อใดมิใช่ลักษณะของวุฒิภาวะทางกาย
ก. การเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก
ข. การเพิ่มขึ้นของความสูง
ค. การเรียนรู้และการฝึกฝน
ง. การคลาน การนั่ง การเดิน
5. ผู้ปกครองอนุญาตให้ลูกวัยรุ่นพาเพื่อนมาเที่ยวบ้าน
โดยจัดอาหารว่างเลี้ยงเพื่อนของลูกผู้ปกครองส่งส่งเสริมเรื่องใดแก่ลูก
ก. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย
ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
ค. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม
ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
6. ครูปฎิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ เรื่องการประหยัดพลังงาน โดยขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟแสดงว่าครูกำลังปลูกฝังเรื่องใดแก่เด็ก
ก. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย
ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
ค. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม
ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
7. ครูแนะนำรายการสารคดีที่มีความรู้ในต่างประเทศมาเล่าให้ฟังรวมทั้งการพานักเรียนไปศึกษาดูงานนอกสถานที่
แสดงว่าครูปลูกฝังเรื่องใดแก่เด็ก
ก. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย
ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
ค. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม
ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
8. เด็กไม่เพียงแต่ต้องการอาหารเสื้อผ้า
และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆแต่เด็กยังต้องการความรักและความอบอุ่นจากครูและพ่อแม่ด้วย
แสดงว่าเด็กต้องการได้รับการพัฒนาด้านใด
ก. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย
ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
ค. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม
ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
9. ความแตกต่างระหว่างการเสริมแรงทางบวก
และการเสริมแรงทางลบ ข้อใดถูกที่สุด
ก. การเสริมแรงทางบวกใช้วัตถุเสริมแรง ในขณะที่การเสริมแรงทางลบใช้ความรู้สึกเสริมแรง
ข. การเสริมแรงทางบวก คือรางวัล
ในขณะที่การเสริมแรงทางลบคือการลงโทษ
ค. การเสริมแรงทางบวกเป็นการเรียนรู้ที่จะได้รับในสิ่งที่ตนต้องการ
ในขณะที่การเสริมแรงทางลบเป็นการเรียนรู้ที่จะหนีสิ่งที่ตนไม่ต้องการ
ง. การเสริมแรงทางบวกผู้รับพึงพอใจ
ในขณะที่การเสริมแรงทางลบผู้รับเกิดความเครียดและก้าวร้าว
10. นักเรียนที่ไม่ยอมส่งการบ้าน
เขาสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยทำการบ้านส่งทุกครั้ง
ถ้าได้รับการเสริมแรงอย่างเหมาะสมจากครู
ก. ภาพความคิด
ข. การแผ่ขยายความคิด
ค. การปรับพฤติกรรม
ง. กฎการฝึกหัด
11. นักเรียนที่รักครู เพราะว่าเขาชอบวิชาที่ครูสอน ตรงกับข้อใด
ก. ภาพความคิด
ข. การแผ่ขยายความคิด
ค. การปรับพฤติกรรม
ง. กฎการฝึกหัด
12. บรรพตมองเห็นภาพความสัมพันธ์ของไม้แต่ละท่อนในความคิดจึงสามารถใช้ไม้ยาวเขี่ยผลไม้มากินได้
ภาพที่เกิดในความคิดตรงกับข้อใด
ก. ภาพความคิด
ข. การแผ่ขยายความคิด
ค. การปรับพฤติกรรม
ง. กฎการฝึกหัด
13.แมวสามารถกดแป้นไม้เพื่อเร่งให้ออกจากรงเร็วขึ้น
หลังจากถูกจับขังในกรงเดิมหลายครั้ง การทำซ้ำของแมวตรงกับการเรียนรู้ข้อใด
ก. ภาพความคิด
ข. การแผ่ขยายความคิด
ค. การปรับพฤติกรรม
ง. กฎการฝึกหัด
14. เมื่อครูพบเห็นเด็กมีพฤติกรรมเป็นปัญหาในห้องเรียน
ครูสามารถจะใช้วิธีใดเป็นอันดับแรกในการศึกษาเด็ก
ก. สัมภาษณ์เด็ก
ข. เขียนประวัติเด็ก
ค.เยี่ยมบ้านผู้ปกครองเด็ก
ง. สังเกตพฤติกรรม
15. น้องลูกน้ำ
เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังกลับจากโรงเรียน เธอช่วยแม่เช็ดบ้านเป็นประจำ เพราะหลังจากทำเสร็จแล้ว
คุณแม่จะให้ลูกน้ำเล่นเกมส์ที่ชอบ ลูกน้ำเรียนรู้หน้าที่ด้วยวิธีใด
ก. การเรียนรู้ด้วยการสังเกตตัวแบบ
ข. การเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขคลาสสิค
ค.
การเรียนรู้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ
ง. การเรียนรู้แบบหยั่งรู้หยั่งเห็น
16. มนุษย์สามารถเรียนรู้ได้แต่เมื่อใด
ก. เมื่อยู่ในท้องแม่
ข. วันแรกของการเกิดจากท้องแม่
ค. เมื่อเริ่มเข้าใจภาษา
ง. เมื่อเริ่มเข้าโรงเรียน
17. โอกาสที่ดีที่สุดของการเรียนรู้อยู่ในวัยใด
ก. วัยในครรภ์มารดา
ข. วัยเด็กตอนต้น
( 0-6ปี )
ค. วัยรุ่น ( 13 – 18 ปี)
ง. วัยผู้ใหญ่ตอนต้น
(20-25 ปี)
18. ความสามารถททคิดย้อนกลับ ของเด็ก
อยู่ในขั้นใด
ก. การคิดเหตุผลเชิงรูปธรรม
ข. การคิดเหตุผลเชิงนามธรรม
ค. การคิดแบบสร้างสรรค์
ง. การคิดแบบจินตนาการ
19. คนสูบบุหรี่จัดเป็นผลมาจากการชงักของการพัฒนาการทางเพศขั้นใด
ก. ขั้นปาก
ข. ขั้นทวารหนัก
ค. ขั้นสนใจเพศตรงข้าม
ง. ขั้นอวัยวะเพศ
20. บทเรียนสำเร็จรูปสร้างขึ้น
จากทฤษฎีการเรียนรู้แบบใด
ก. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบหยั่งเห็น
ข. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก
ค. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเงื่อนไขลงมือกระทำ
ง. ทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยการสังเกตตัวแบบ
21. การพบเอกลักษณ์แห่งตนในช่วงชีวิตของคนจะอยู่ในวัยใด
ก. ระยะเด็กตอนต้น
ข. ระยะวัยเด็กตอนปลาย
ค.ระยะวัยรุ่น
ง. ระยะวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
22. ข้อใดที่มิใช่การแนะแนว
ก. การแนะนำอาชีพ
ข. การแนะแนวการศึกษา
ค. การแนะแนวอาชีพ
ง. การแนะแนวส่วนตัวและสังคม
23. ข้อใดที่มิใช่กระบวนการแนะแนวการศึกษา
ก. การแนะแนวการศึกษาต่อ
ข. การเลือกโปรแกรมการเรียน
ค. การการวัดและประเมินผล
ง. การวางแผนและตัดสินใจเลือกอาชีพ
24. กระบวนการพัฒนาอาชีพ พัฒนาการตามวัยของเด็ก
ถามว่า วัยรุ่นตอนต้น อายุ 14-18 ปีอยู่ในขั้นใด
ก. เริ่มสนใจอาชีพ
ข. มีความสนใจอาชีพที่เฉพาะเจาะจง
ค. พัฒนาความสนใจอาชีพอย่างมั่นคงขึ้น
ง. สร้างความก้าวหน้าอาชีพ
25. กระบวนการพัฒนาอาชีพ พัฒนาการตามวัยของเด็ก
ถามว่า วัยรุ่นตอนกลาง อายุ 22-25 ปี อยู่ในขั้นใด
ก. เริ่มสนใจอาชีพ
ข. มีความสนใจอาชีพที่เฉพาะเจาะจง
ค. พัฒนาความสนใจอาชีพอย่างมั่นคงขึ้น
ง. สร้างความก้าวหน้าอาชีพ
26. การแนะแนวส่วนตัวและสังคม
เป็นกระบวนการให้ความช่วยเหลือบุคคลให้เกิดความเข้าใจตนเองและสภาพแวดล้อม ถามว่าข้อใดมิใช่ การแนะแนวส่วนตัวและสังคม
ก. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ข. การรู้จักมารยาททางสังคม
ค. การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
ง. การควบคุมอารมณ์
27. ระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียน เป็นการทำงานประสานเอื้ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือครูประจำชั้นในการดำเนินงานช่วยเหลือนักเรียนถามว่าขั้นตอนแรกของระบบคือข้อใด
ก .คัดกรองนักเรียน
ข. รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ค. ส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหารุนแรง
ง.
พัฒนานักเรียน
28. ระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียน เป็นการทำงานประสานเอื้ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือครูประจำชั้นในการดำเนินงานช่วยเหลือนักเรียน ถามว่า ขั้นตอนสุดท้ายของระบบ คือข้อใด
ก .คัดกรองนักเรียน
ข. รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ค. ส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหารุนแรง
ง.
พัฒนานักเรียน
29. ข้อใดมิใช่การจัดบริการแนะแนว
ก. การบริการจัดวางตัวบุคคล
ข. การบริการให้คำปรึกษา
ค. การบริการสารสนเทศ
ง. การบริการแนะนำอาชีพ
30. จิตวิทยาสำหรับครู คือข้อใด
ก.จิตวิทยาพัฒนาการ
ข. จิตวิทยาการเรียนรู้
ค. จิตวิทยาการแนะแนว-การให้คำปรึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
31. จิตวิทยาพัฒนาการ ครอบคลุมเนื้อหาใดบ้าง
ก. ด้านร่างกาย
ข. ด้านอารมณ์
ค. ด้านสังคม
ง. ถูกทุกข้อ
32. การเรียนรู้ หมายถึงข้อใด
ก. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างถาวร
ข. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการสนองตอบสัญชาตญาณ
ค. ฤทธิ์ของยาหรือสารเคมี
ง. ปฎิกิริยาสะท้อนตามธรรมชาติของมนุษย์
33. ข้อใดเป็นการเรียนรู้ ด้านพุทธิพิสัย
ก. การรับรู้
ข. การจัดระบบ
ค. การแระเมินค่า
ง. การทำตามแบบ
34. ข้อใดเป็นระดับการเรียนรู้ด้านจิตพิสัย
ก. บุคลิกภาพ
ข. การวิเคราะห์
ค. การสังเคราะห์
ง. การหาคาวถูกต้อง
35. ข้อใดเป็นระดับการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย
ก. การนำความรู้ไปใช้
ข. การตอบสนอง
ค. การนำความรู้ไปใช้
ง. การทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ
36. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ด้านผู้เรียน
ตรงกับคุณลักษณะข้อใด
ก. ลำดับเนื้อหาของบทเรียน
ข. การใช้แรงจูงใจ
ค. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
ง. วุฒิภาวะ
37. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ด้านบทเรียน หรือ ลักษณะงาน
ตรงกับคุณลักษณะข้อใด
ก. ลำดับเนื้อหาของบทเรียน
ข. การใช้แรงจูงใจ
ค. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
ง. วุฒิภาวะ
38. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ด้านวิธีการเรียนการสอน ตรงกับคุณลักษณะข้อใด
ก. ลำดับเนื้อหาของบทเรียน
ข. การใช้แรงจูงใจ
ค. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
ง. วุฒิภาวะ
39. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ด้านความสามารถในการถ่ายโยงความรู้
ตรงกับคุณลักษณะข้อใด
ก. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
ข. การให้คำแนะนำ
ค. ตัวรบกวน
ง. การถ่ายโยงทางบวก
40. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ด้านองค์ประกอบจากสิ่งแวดล้อมอื่นๆ
ตรงกับคุณลักษณะข้อใด
ก. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
ข. การให้คำแนะนำ
ค. ตัวรบกวน
ง. การถ่ายโยงทางบวก
41. ข้อใดเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้
ก. แรงขับ
ข. สิ่งเร้า
ค. การตอบสนอง
ง. ถูกทุกข้อ
42. ความต้องการที่เกิดขึ้นภายในตัวบุคคลพร้อมที่จะเรียนรู้ของบุคคลทั้งสมอง
ระบบประสาทสัมผัสและกล้ามเนื้อ ตรงกับองค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้ตามข้อใด
ก. สิ่งเร้า
ข. แรงขับ
ค. การเสริมแรง
ง. การตอบสนอง
43. สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ
ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้บุคคลมีปฎิกริยาหรือพฤติกรรมตอบสนองออกมา
ในด้านการเรียนการสอน ตรงกับข้อใด
ก. สิ่งเร้า
ข. แรงขับ
ค. การเสริมแรง
ง. การตอบสนอง
44. ปฎิกิริยา หรือพฤติกรรมต่างๆที่แสดงออกมา
เมื่อบุคคลได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้าทั้งที่สังเกตได้ และที่ไม่สังเกตได้
เช่นการเคลื่อนไหว ท่าทาง การคิด ความสนใจ ตรงกับข้อใด
ก. สิ่งเร้า
ข. แรงขับ
ค. การเสริมแรง
ง. การตอบสนอง
45. การให้สิ่งที่มีอิทธิพลต่อบุคคลอันมีผลในการเพิ่มพลังให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองมากขึ้น
ตรงกับข้อใด
ก. สิ่งเร้า
ข. แรงขับ
ค. การเสริมแรง
ง. การตอบสนอง
46. กระบวนการเรียนรู้ที่เป็นพื้นฐานการเรียนรู้เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองที่เป็นปฎิกิริยาสะท้อนกลับอัตโนมัติ
ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องอาศัยการเรียนรู้
เช่นเคาะที่หัวเข่ากระตุก เป็นทฤษฎีการเรียนรู้ตรงตามข้อใด
ก. ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ
ข. ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
ค. ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบลองผิดลองถูก
ง. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบหยั่งเห็น
47. ธรรมชาติของมนุษย์คิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนย่อยๆ
พฤติกรรมของบุคคลจะต้องเป็นรูปของส่วนรวมมากกว่าส่วนย่อยๆ ผู้แก้ปัญหาจะมองเห็นภาพรวมของปัญหาเป็นทฤษฎีการเรียนรู้แบบใด
ก. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเชาว์ปัญญา
ข. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบหยั่งเห็น
ค. ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญา
ง. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
48. การเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมาก
เป็นการเรียนรู้โดยการสังเกต หรือการเลียนแบบเป็นการเรียนรู้แบบใด
ก. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเชาว์ปัญญา
ข. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบหยั่งเห็น
ค. ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญา
ง. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
เฉลย แนวข้อสอบจิตวิทาการศึกษาและการแนะแนว
1) ก 2) ง 3) ง 4) ค 5) ค 6) ก 7) ง 8) ข 9) ค 10) ค 11) ข 12) ก 13) ง 14) ค 15) ค 16) ก 17) ข 18) ก 19) ก 20) ค 21) ค 22) ก 23) ง 24) ก 25) ข 26) ก 27) ข 28) ค 29) ง 30) ง 31)ง 32) ก 33) ค 34) ก 35) ง 36) ง 37) ก 38) ข 39) ง 40) ก 41) ง 42) ข 43) ก 44 ) ง 45) ค 46) ข 47) ข 48) ค
ติวสรุปโค้งสุดท้ายสอบครูผู้ช่วยสพฐ. “ภาค ก ข” วันเสาร์อาทิตย์ที่ 4-5 สิงหาคม 2561 ที่โรงแรมโอเอซิสรีสอร์ต ท่าขอนยาง ตรงข้ามทางเข้า ม.ใหม่ จังหวัดมหาสารคาม
กำหนดการอบรมวันแรก (วันเสาร์)
http://pakdee277.blogspot.com/2018/07/4-5-2561.html
ติวสรุปโค้งสุดท้ายสอบครูผู้ช่วยสพฐ. “ภาค ก ข” วันเสาร์อาทิตย์ที่ 4-5 สิงหาคม 2561 ที่โรงแรมโอเอซิสรีสอร์ต ท่าขอนยาง ตรงข้ามทางเข้า ม.ใหม่ จังหวัดมหาสารคาม
กำหนดการอบรมวันแรก (วันเสาร์)
08.00 – 08.30 น. ลงทะเบียนรับหนังสือและเอกสาร
08.30 - 10.30 น. ความสามารถทั่วไป (เฉลย วิเคราะห์ อธิบายข้อสอบ เนื้อหาตามแบบ ทดสอบ)
- ความสามารถทางด้านตัวเลข คิดเลข สรุป เหตุผลเกี่ยวกับตัวเลข
- ความสามารถด้านภาษาไทย ความเข้าใจ จับใจความ สรุปความ ตีความขยาย
ความ เรียงข้อความ สะกดคำ แต่งประโยคและคำ ศัพท์
- ความสามารถด้านเหตุผล คิดสรุปหาเหตุผล อุปมาอุปไมย
10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.45 - 12.00 น. ความสามารถทั่วไป (เฉลย วิเคราะห์ อธิบายข้อสอบ
เนื้อหาตามแบบทดสอบ ต่อ )
12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00-14.30 น. ความรอบรู้ (เฉลยวิเคราะห์อธิบายข้อสอบเนื้อหาตามแบบทดสอบ)
- สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ปัจจุบัน
- นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
- ยุทธศาสตร์การปฎิรูปประเทศ
- วัฒนธรรมไทย และขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
14.30-14.45น. พักรับประทานอาหารว่าง
14.45-17.00น. ความรอบรู้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติราชการ (เฉลย วิเคราะห์ อธิบาย
ข้อสอบ เนื้อหาตามแบบทดสอบ )
- พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และที่
แก้ไขเพิ่มเติม
- พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547และที่
แก้ไขเพิ่มเติม
- พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
- พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551
- กฎหมาย กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ สพฐ. ,
มาตรฐานการศึกษาของ สพฐ.
กำหนดการอบรมวันที่สอง ( วันอาทิตย์ )
08.30-10.30น. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติของวิชาชีพครู
(เฉลย วิเคราะห์ อธิบายข้อสอบ เนื้อหาตามแบบทดสอบ)
-วินัยและการรักษาวินัย
-คุณธรรม จริยธรรม และอุดมการณ์ของครู
-มาตรฐานด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
-มาตรฐานด้านการปฎิบัติงาน
-มาตรฐานด้านการปฎิบัติตน
10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.45-12.00 น. ความรู้ความความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติวิชาชีพ ( ต่อ )
12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหาร
13.00-14.30 น. ภาค ข ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา
-หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร
-หลักการสอนที่เน้นการสอนคิดวิเคราะห์และการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น
สำคัญ
-จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว
-การพัฒนาผู้เรียน
-การบริหารจัดการชั้นเรียน
-การวิจัยทางการศึกษา
-สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา
-การวัดและประเมินผลการศึกษา
-ลักษณะงานที่ปฎิบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง
14.30-14.45น. พักรับประทานอาหารว่าง
14.45-17.00น. วิชาการศึกษา (ต่อ )
หมายเหตุ กำหนดการการอบรมมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
@วิทยากรและวิธีการอบรมฯ
วิทยากร : โดย ทีมงานวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิของ สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด มหาสารคาม
วิทยากร : ดร. ภักดี รัตนมุขย์ ผู้แต่งหนังสือ
- ความรอบรู้ของ สพฐ.
- ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรมและอุดมการณ์ของความเป็นครู
- ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา
- Thailand 4.0 ตอบโจทย์ประเทศไทย? ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง 3.0และการปฎิรูปประเทศ
วิธีการอบรม :
: วิเคราะห์ ( เจาะลึก ) ข้อสอบ/พร้อมหลักการ เทคนิคในการเลือกคำตอบ
: อธิบายเนื้อหาและสรุปสาระสำคัญของข้อสอบในเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
: วิธีนำเสนอ ( Presentation) โดยการบรรยายประกอบการเน้นความเชื่อมโยงของเนื้อหา
@ค่าใช้จ่าย ( ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่าที่พัก)
-ค่าลงทะเบียน ท่านละ 1,800 บาท ( หนึ่งพันแปดร้อยบาทถ้วน )
-เป็นค่าหนังสือสื่อเอกสารฯ ค่าอาหารกลางวันและค่าอาหารว่าง (ไม่รวมค่าที่พัก) ดังนี้
1. หนังสือและเอกสารประกอบการอบรมฯ พร้อมซองใส่ จำนวน 1 ชุด
2. อาหารกลางวัน พร้อมเบรค เช้าบ่าย ทั้งสองวัน
@การชำระค่าลงทะเบียน
-ชำระค่าลงทะเบียนในวันแรกของการอบรมฯ
-จะรับผู้เข้าอบรมในจำนวนจำกัดเฉพาะผู้ที่สำรองที่นั่งเท่านั้น
@การสำรองที่นั่ง
-สำรองที่นั่งโดยโทรศัพท์ หรือทาง e-mail dr.pukdee@hotmail.com พร้อมเงินมัดจำ 500 บาท (บอกชื่อ จังหวัดที่อยู่ และเบอร์โทร) ชำระเงินผ่านบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเภทออมทรัพย์ สาขามหาสารคาม เลขที่บัญชี 608-269894-8 ชื่อ บัญชี นางสาวทักษพร รัตนมุขย์ ชำระเงินแล้วโทร. แจ้ง 084-2616667,062-6109997,043-721822 หรือแจ้งทางอีเมล์อีกครั้งว่าโอนเงินแล้ว
-สำรองที่นั่งก่อนวันอบรมฯ อย่างน้อย 1 วัน
-หากผู้เข้ารับการอบรมไม่ถึงรุ่นละ 30 คน จะแจ้งยกเลิกทางโทรศัพท์ที่ให้ไว้
@ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่.................
สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด : โทร. 084-2616667, 062-6109997,043-721822
http://pakdee277.blogspot.com/2018/07/4-5-2561.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น