วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

#แบ่งปันแนวข้อสอบบรรจุราชการการ เตรียมสอบครูผู้ช่วยสอศ.บุคคลภายใน+ภายนอกวิชาการศึกษา ชุดที่ 4(จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว)


#แบ่งปันแนวข้อสอบบรรจุราชการการ เตรียมสอบครูผู้ช่วยสอศ.บุคคลภายใน+ภายนอกวิชาการศึกษาชุดที่ 4 (จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว)

1.ในประเด็นการศึกษาความรู้ทางจิตวิทยามีประโยชน์ต่อความเป็นครูและผู้บริหารการศึกษาตรงตามข้อใด
ก.ทำให้ครูทราบและสามารถทำนายได้ว่าปัจจัยใดทำให้คนมีการพัฒนาอย่างปกติและไม่ปกติในด้านต่างๆ
ข.ทำให้ครูรู้จักเข้าใจนิสัยและบุคลิกภาพของนักเรียนและคนในการปกครองด้วยการใช้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการศึกษาเป็นรายบุคคล การวิจัยพฤติกรรมนักเรียนในชั้นเรียน ทำให้ครูรู้ที่มาของปัญหาความเกี่ยวพันของปัญหาและทำนายผลสุดท้ายของปัญหาถ้าไม่ได้รับการแก้ไข
ค.ช่วยให้ครูในการเตรียมการสอนและเลือกใช้วิธีการสอนที่ให้เด็กเกิดความรู้อย่างแท้จริง
ง.ถูกทุกข้อ
2.ข้อใดเป็นความรู้เรื่องจิตวิทยาสำหรับครู
ก.จิตวิทยาพัฒนาการ    
ข.จิตวิทยาการเรียนรู้
ค.จิตวิทยาแนะแนว-การให้คำปรึกษา
ง.ถูกทุกข้อ
3.ความสำคัญของจิตวิทยาพัฒนาการ เชื่อว่าการพัฒนาการของมนุษย์เกิดมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่แรกเกิดจนวาระสุดท้ายของชีวิตลักษณะการเปลี่ยนแปลงแบ่งออกเป็นกี่ด้าน
ก.1 ด้าน               ข.2 ด้าน
ค.3 ด้าน               ง.4 ด้าน
4.ข้อใดมิใช่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์
ก.การเปลี่ยแปลงทางเศรษฐกิจ   ข.การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย
ค.การเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์    ง. การเปลี่ยนแปลงด้านด้านสังคม
5.ความงอกงาม (Growth) หมายถึงข้อใด
ก. การเปลี่ยนแปลงของขนาดและรูปร่างที่สามารถสังเกตและวัดได้
ข. การพัฒนาการทางอารมณ์
ค. การพัฒนาทางสังคม
ง. การพัฒนาทางสติปัญญา
6.ความงอกงามเป็นพื้นฐานของการพัฒนาไปสู่ด้านใด
ก. การพัฒนาการทางอารมณ์
ข. การพัฒนาทางสังคม
ค. การพัฒนาทางสติปัญญา
ง.วุฒิภาวะ
7.กระบวนการที่ทำให้อินทรีย์เจริญถึงขีดเต็มที่ในระยะหนึ่งของชีวิตพร้อมจะประกอบกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งตามความเหมาะสมกับวัย หมายถึงข้อใด
ก. การพัฒนาการทางอารมณ์
ข. การพัฒนาทางสังคม
ค. การพัฒนาทางสติปัญญา
ง.วุฒิภาวะ
8. แนวคิดทฤษฎีที่จัดลำดับขั้นการพัฒนามนุษย์เป็นแนวคิดของนักจิตวิทยากลุ่มใด
ก.ท.จิตวิเคราะห์ของฟรอยด์   
ข.ท.จิตวิทยาสังคมของอิริคสัน
ค.ท.พัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์
ง.ท.พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
9.แนวคิดทฤษฎีพัฒนาการที่สนใจเด็กในเรื่องการพัฒนาความคิดความเข้าใจกิจกรรมต่างๆเช่นการใช้ภาพและความคิดเป็นแนวคิดของใคร
ก.ท.จิตวิเคราะห์ของฟรอยด์   
ข.ท.จิตวิทยาสังคมของอิริคสัน
ค.ท.พัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์
ง.ท.พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
10.แนวคิดทฤษฎีพัฒนาการที่สนใจเกี่ยวกับจริยธรรมเป็นแนวคิดของใคร
ก.ท.จิตวิเคราะห์ของฟรอยด์   
ข.ท.จิตวิทยาสังคมของอิริคสัน
ค.ท.พัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์
ง.ท.พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
11.แนวคิดทฤษฎีพัฒนาการที่เน้นลักษณะความสัมพันธภาพที่บุคคลมีกับกลุ่มบุคคลต่างๆเช่นพ่อ แม่ เพื่อน สามี ภรรยาและข้อขัดแย้งทางสังคม จิตใจเป็นตัวกระตุ้นให้บุคคลมีพฤติกรรมและพัฒนาบุคลิกภาพในรูปแบบต่างๆตั้งแต่เกิดจนถึงวัยผู้สูงอายุเป็นแนวคิดของใคร
ก.ท.จิตวิเคราะห์ของฟรอยด์   
ข.ท.จิตวิทยาสังคมของอิริคสัน
ค.ท.พัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์
ง.ท.พัฒนาการทางจริยธรรมของโคลเบิร์ก
12.คำจำกัดความของการเรียนรู้ข้อใดเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมค่อนข้างถาวร
ก.สัญชาติญาณของฤทธิ์ยา
ข.สัญชาติญาณของฤทธิ์สารเคมี
ค.เด็กใช้มือไปสัมผัสกาน้ำร้อนแล้วสะบัดมือหนี
ง.ปฎิกริยาสะท้อนกลับของมนุษย์
13.ข้อใดเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ทางอ้อม
ก.การปรุงอาหาร     ข.การพิมพ์ดีด
ค.การอ่านหนังสือ   ง.การฝึกขับรถยนต์
14.การเรียนรู้เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่สอดคลอ้งกับเป้าหมายการเรียนรู้พฤติกรรมที่ถูกกำหนดขึ้นโดยบลูมและคณะมุ่งพัมนาผู้เรียนในกี่ด้าน
ก. 1 ด้าน             ข. 2 ด้าน
ค. 3 ด้าน             ง. 4 ด้าน
15.ข้อใดไม่ถูกต้องกับด้านที่บลูมและคณะกำหนดในการพัฒนาผู้เรียน
ก.ด้านอัตตวิสัย       ข.ด้านพุทธิพิสัย
ค.ด้านทักษะพิสัย   ง.ด้านจิตพิสัย
16.ระดับการเรียนรู้ของบลูมและคณะ 6+5+5 ถามว่า หมายเลข6 เป้นระดับการเรียนรู้ตามข้อใด
ก.ด้านอัตตวิสัย       ข.ด้านพุทธิพิสัย
ค.ด้านทักษะพิสัย   ง.ด้านจิตพิสัย 
17.ข้อใดมิใช่การเรียนรู้
ก.การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเนื่องจากวุฒิภาวะ
ข.การเปลี่ยนแปลงเนื่องจากความเจ็บปวดทางกาย
ค.การเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการเหนื่อยล้าทางกาย
ง.ถูกทุกข้อ
18.ข้อใดเป็นคุณลักษณะการเรียนรู้ของผู้เรียน ผู้เข้ารับการอบรม  ผู้ฝึกปฎิบัติการใหม่ๆ
ก.วุฒิภาวะ    
ข.ความยากง่ายของบทเรียน
ค.การเสริมแรง
ง.การถ่ายโยงทางบวกและทางลบ
19.บุคคลมีความสามารถการเรียนรู้ต่างกันทำให้ความสำเร็จในการเรียนรู้ต่างกัน ข้อใดเป็นคุณลักษณะของบทเรียนหรือลักษณะงาน
ก.วุฒิภาวะ    
ข.ความยากง่ายของบทเรียน
ค.การเสริมแรง
ง.การถ่ายโยงทางบวกและทางลบ
20.ข้อใดเป็นคุณลักษณะของวิธีการเรียนการสอน ความต้องการที่เกิดขึ้นในตัวบุคคล
ก.อายุและเพศ           
ข.ลำดับเนื้อหาของบทเรียน
ค.การฝึกปฎิบติภายหลังการสอน
ง.การถ่ายโยงทางบวกและทางลบ
21.องค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้ตามข้อใดเป็นความพร้อมที่จะเรียนรู้ของบุคคลทั้งสมอง ระบบประสาทสัมผัสและกล้ามเนื้อ
ก.การตอบสนอง     ข.สิ่งเร้า
ค.แรงขับ                 ง.การเสริมแรง
22.กิจกรรมการเรียนการสอนและอุปกรณ์การสอนต่างๆที่ครูนำมาใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้ตามข้อใด
ก.การตอบสนอง     ข.สิ่งเร้า
ค.แรงขับ                 ง.การเสริมแรง
23.สิ่งที่มีอิทธิพลต่อบุคคลอันมีผลในการเพิ่มพลังทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนองเพิ่มขึ้นตรงกับองค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้ตามข้อใด
ก.การตอบสนอง     ข.สิ่งเร้า
ค.แรงขับ                 ง.การเสริมแรง
24.ในขณะที่ครูสอนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในห้อง ปรากฎว่าแดงไม่มีความสนใจในการเรียนของครูเลยชวนเพื่อนคุยและส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนร่วมเรียนในห้องตรงกับองค์ประกอบสำคัญของการเรียนรู้ตามข้อใด
ก.การตอบสนอง     ข.สิ่งเร้า
ค.แรงขับ                 ง.การเสริมแรง 
25.ความหมายของการแนะแนวผิดตามข้อใด
ก.การชี้แนะ             ข.การชี้ช่องทาง
ค.การแนะนำ           ง. การบอกแนวทาง
26.ลักษณะของการแนะแนวตามความหมายของรูปศัพท์หมายถึงข้อใด
ก.การชี้แนะ แนะแนวทาง ชี้ช่องทางเพื่อช่วยให้ผู้มีปัญหาตัดสินใจได้
ข.กระบวนการช่วยเหลือบุคคลให้เข้าใจตนเองและโลกของตน
ค.การบริการที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นมาเพื่อให้ความช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม
ง.ถูกทุกข้อ
27.ความหมายของการแนะแนวในแง่การบริการจำแนกเป็นกี่ประเภท
ก.1 ประเภท            ข.2 ประเภท
ค.3 ประเภท            ง.4 ประเภท
28.ข้อใดตรงกับการบริการหลักของสถานศึกษา
ก.บริการจัดหาและให้ทุนการศึกษา
ข.บริการสอนซ่อมเสริม
ค.การสำรวจนักเรียนเป้นรายบุคคล
ง.การบริการด้านสุขภาพ
29.ข้อใดตรงกับการบริการเสริมของสถานศึกษา
ก.การบริการสารสนเทศ          ข.การบริการให้คำปรึกษา
ค.การบริการจัดวางตัวบุคคล   ง.การบริการอาหารกลางวัน
30.หน้าที่การแนะแนวตรงกับข้อใด
ก.เพื่อป้องกันปัญหา           ข.เพื่อแก้ไขปัญหา
ค.เพื่อส่งเสริมและพัมนา     ง.ถูกทุกข้อ
31.ขอบข่ายการแนะแนวแบ่งออกเป็นกี่ประการ
ก.1 ประการ                 ข. 2 ประการ
ค.3 ประการ                 ง. 4 ประการ
32.ข้อใดมิใช่ขอบข่ายของการแนะแนว
ก.การแนะแนวการศึกษาพิเศษ   
ข.การแนะแนวอาชีพ
ค.การแนะแนวส่วนตัวและสังคม
ง.การแนะแนวการศึกษา
33.การจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เรียน เช่น ประวัติครอบครัว ประวัติการเรียน ความถนัดความสนใจ เจตคติเป็นการการบริการแนะแนวประเภทใด
ก.การบริการจัดวางตัวบุคคล    
ข.การบริการสารสนเทศ
ค.การบริการสำรวจนักเรียนเป็นรายบุคคล
ง.การบริการให้คำปรึกษา
34.การจัดปฐมนิเทศ ปัจฉิมนิเทศ กิจกรรมโฮมรูมเป็นการบริการแนะแนวส่วนใด
ก.การบริการจัดวางตัวบุคคล    
ข.การบริการสารสนเทศ
ค.การบริการสำรวจนักเรียนเป็นรายบุคคล
ง.การบริการให้คำปรึกษา
35.งานบริการแนะแนวข้อใดถือว่าเป็นหัวใจของการแนะแนว
ก.การบริการจัดวางตัวบุคคล    
ข.การบริการสารสนเทศ
ค.การบริการสำรวจนักเรียนเป็นรายบุคคล
ง.การบริการให้คำปรึกษา
36.ข้อใดตรงกับการบริการจัดวางตัวบุคคล
ก.การจัดหาทุนในการศึกษาของเด็ก
ข.การจัดหาทุนอาหารกลางวัน
ค.การจัดหางานพิเศษให้เด็กทำงาน
ง.ถูกทุกข้อ
37.ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป้นกระบวนการดำเนินงานช่วยเหลือนักเรียนอย่างมีขั้นตอนพร้อมด้วยวิธีการและเครื่องมือการทำงานที่ชัดเจนโดยมีใครเป็นบุคลากรหลักในการดำเนินดำเนินการ
ก.ครูแนะแนว                ข.ครูที่ปรึกษา
ค.ผู้ปกครอง                 ง.ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ
38.องค์ประกอบของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีกี่ประการ
ก. 4 ประการ                 ข. 5 ประการ
ค. 5 ประการ                 ง. 6 ประการ
39.ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกของการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ก.คัดกรองนักเรียน        ข. รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ค.ส่งเสริมนักเรียน         ง. การป้องกันและแก้ไขปัญหา
40.เครื่องมือในการคัดกรองนักเรียนปกติและกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหาตรงกับข้อใด
ก.วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์(AQ)
ข.วิเคราะห์ข้อมูลจากจากความสามารถทางการศึกษา(EQ)
ค.วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบประเมินพฤติกรรมเด็ก (SDQ)
ง.วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์
41.ข้อใดตรงกับกิจกรรมกระบวนการดำเนินงานส่งเสริมนักเรียนทุกกลุ่มของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ก.จัดกิจกรรมโฮมรูม            
ข.ประชุมผู้ปกครองนักเรียน
ค.กิจกรรมอื่นๆ                     
ง.ถูกทุกข้อ
42.ข้อใดเป็นกระบวนการดำเนินงานการส่งต่อในระบบความช่วยเหลือนักเรียน
ก.ส่งต่อภายนอก           
ข. ส่งต่อภายใน
ค.ส่งต่อให้ผู้บริหารสถานศึกษ
ง.ถูกทั้งข้อ ก และ ข
43.เพราะเหตุใดครูจึงต้องเข้าใจการพัฒนาการเด็ก       
. เพื่อให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย        
. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ครูในการปกครองนักเรียน
. เพื่อให้ครูเข้าใจพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม          
. เพื่อให้ครูมีความรู้ในการพัฒนาการของมนุษย์
44. ความเหมือนกัน ระหว่างการเจริญเติบโต และ การพัฒนาการ ตรงกับข้อใด
. เป็นการเพิ่มความสามารถเหมือนกัน      ข. เป็นการเพิ่มอายุเหมือนกัน
. เป็นการเพิ่มความสูงเหมือนกัน              ง. เป็นการนำไปสู่วุฒิภาวะเหมือนกัน
45.ผลการเรียนรู้ ข้อใดไม่ถูกต้อง
. ลมพัดฝุ่นลอยมาเอามือปิดจมูก             ข. ไม่เดินเข้าหากองไฟ
. เหยียบเบรคเมื่อเห็นคนข้ามทางม้าลาย  ง.  เหยียบก้นบุหรี่แล้วชักเท้าหนี
46. บทบาททางเพศควรปลูกฝังให้สอดคล้องกับเพศธรรมชาติ ควรทำในวัยใด
. วัยเด็กทารก                     ข. วัยเด็กตอนต้น
. วัยรุ่นตอนต้น                   ง. วัยรุ่นตอนปลาย
47. วุฒิภาวะคือ กระบวนการที่ทำให้อินทรีย์บรรลุถึงขีดความเจริญงอกงามเต็มที่ ในระยะหนึ่งของชีวิต ข้อใดมิใช่ลักษณะของวุฒิภาวะทางกาย
.  การเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก     ข. การเพิ่มขึ้นของความสูง
.  การเรียนรู้และการฝึกฝน   ง. การคลาน การนั่ง   การเดิน
48.การพัฒนาการของเด็กตามทฤษฎีของฟรอยด์ในช่วงอายุ ระหว่าง 6- 12 ปีตรงกับขั้นใด
. ขั้นปาก                             ข. ขั้นอวัยวะเพศ
. ขั้นแฝง                              ง. ขั้นทวารหนัก
49.ผู้ปกครองอนุญาตให้ลูกวัยรุ่นพาเพื่อนมาเที่ยวบ้าน โดยจัดอาหารว่างเลี้ยงเพื่อนของลูกผู้ปกครองส่งเสริมเรื่องใดแก่ลูก
. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย          ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม        ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
50. ครูปฎิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์   เรื่องการประหยัดพลังงาน  โดยขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟแสดงว่าครูกำลังปลูกฝังเรื่องใดแก่เด็ก
. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย          ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม       ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
51.ครูแนะนำรายการสารคดีที่มีความรู้ในต่างประเทศ  มาเล่าให้ฟังรวมทั้งการพานักเรียนไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ แสดงว่าครูปลูกฝังเรื่องใดแก่เด็ก
. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย          ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม       ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
52. เด็กไม่เพียงแต่ต้องการอาหารเสื้อผ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ แต่เด็กยังต้องการความรักและความอบอุ่นจากครูและพ่อแม่ด้วย แสดงว่าเด็กต้องการได้รับการพัฒนาด้านใด 
. ส่งเสริมการพัฒนาทางกาย          ข. ส่งเสริมการพัฒนาทางอารมณ์
. ส่งเสริมการพัฒนาทางสังคม        ง. ส่งเสริมการพัฒนาทางสติปัญญา
53.ความแตกต่างระหว่างการเสริมแรงทางบวก และการเสริมแรงทางลบ ข้อใดถูกที่สุด
. การเสริมแรงทางบวกใช้วัตถุเสริมแรง ในขณะที่การเสริมแรงทางลบใช้ความรู้สึกเสริมแรง
. การเสริมแรงทางบวก คือรางวัล ในขณะที่การเสริมแรงทางลบคือการลงโทษ
. การเสริมแรงทางบวกเป็นการเรียนรู้ที่จะได้รับในสิ่งที่ตนต้องการ ในขณะที่การเสริมแรงทางลบเป็นการเรียนรู้ที่จะหนีสิ่งที่ตนไม่ต้องการ
. การเสริมแรงทางบวกผู้รับพึงพอใจ ในขณะที่การเสริมแรงทางลบผู้รับเกิดความเครียดและก้าวร้าว
54.นักเรียนที่ไม่ยอมส่งการบ้านเขาสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยทำการบ้านส่งทุกครั้งถ้าได้รับการเสริมแรงอย่างเหมาะสมจากครู
. ภาพความคิด                          ข. การแผ่ขยายความคิด
. การปรับพฤติกรรม                  ง. กฎการฝึกหัด
55.นักเรียนที่รักครู เพราะว่าเขาชอบวิชาที่ครูสอน ตรงกับข้อใด
. ภาพความคิด                         ข. การแผ่ขยายความคิด
. การปรับพฤติกรรม                 ง. กฎการฝึกหัด
56. บรรพตมองเห็นภาพความสัมพันธ์ของไม้แต่ละท่อนในความคิดจึงสามารถใช้ไม้ยาวเขี่ยผลไม้มากินได้ ภาพที่เกิดในความคิดตรงกับข้อใด
. ภาพความคิด                                ข. การแผ่ขยายความคิด
. การปรับพฤติกรรม                         ง. กฎการฝึกหัด
57. แมวสามารถกดแป้นไม้เพื่อเร่งให้ออกจากรงเร็วขึ้น     หลังจากถูกจับขังในกรงเดิมหลายครั้ง การทำซ้ำของแมวตรงกับการเรียนรู้ข้อใด
. ภาพความคิด                             ข. การแผ่ขยายความคิด
. การปรับพฤติกรรม                     ง. กฎการฝึกหัด
58.เมื่อครูพบเห็นเด็กมีพฤติกรรมเป็นปัญหาในห้องเรียนครูสามารถจะใช้วิธีใดเป็นอันดับแรกในการศึกษาเด็ก
. สัมภาษณ์เด็ก                            ข. เขียนประวัติเด็ก
.เยี่ยมบ้านผู้ปกครองเด็ก               ง. สังเกตพฤติกรรม
59.น้องใบพัดยอมเก็บของเล่นเข้าที่เดิม เพราะครูขู่ว่าถ้าไม่เก็บของเล่นเข้าที่  ครูจะไม่ให้น้องใบพัดเล่นของเล่นชิ้นนี้อีกในครั้งต่อไป น้องใบพัดเรียนรู้การเก็บของเล่นเข้าที่ โดยวิธีใด
. การเรียนรู้ด้วยการสังเกตตัวแบบ                        ข. การเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขคลาสสิค
. การเรียนรู้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ   ง. การเรียนรู้แบบหยั่งรู้หยั่งเห็น
60. น้องลูกน้ำเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังกลับจากโรงเรียน  เธอช่วยแม่เช็ดบ้านเป็นประจำ เพราะหลังจากทำเสร็จแล้ว คุณแม่จะให้ลูกน้ำเล่นเกมส์ที่ชอบ ลูกน้ำเรียนรู้หน้าที่ด้วยวิธีใด
. การเรียนรู้ด้วยการสังเกตตัวแบบ                          ข. การเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขคลาสสิค
. การเรียนรู้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ     ง. การเรียนรู้แบบหยั่งรู้หยั่งเห็น
61.น้องวิกกี้ พยายามเอาไม้เขี่ยตุ๊กตาบนหลังตู้ เมื่อเขี่ยไม่ถึง เธอลากเก้าอี้แล้วขึ้นบนเก้าอี้ เอาไท้เขี่ยตุ๊กตาบนหลังตู้ตกลงมา น้องวิกกี้เรียนรู้วิธีได้ตุ๊กตามาเล่นด้วยวิธีใด
. การเรียนรู้ด้วยการสังเกตตัวแบบ                          ข. การเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขคลาสสิค
. การเรียนรู้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ     ง. การเรียนรู้แบบหยั่งรู้หยั่งเห็น
62. น้องไอรดาเรียนรู้ที่จะไม่กลัวฟ้าร้อง ด้วยการกอดหมอนข้างทุกครั้งที่มีฝนตก ฟ้าร้อง น้องไอรดาเรียนรู้ด้วยวิธีใด
. การเรียนรู้ด้วยการสังเกตตัวแบบ                          ข. การเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขคลาสสิค
. การเรียนรู้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ     ง. การเรียนรู้แบบหยั่งรู้หยั่งเห็น
63. นักจิตวิทยากลุ่มปัญญานิยม เชื่อว่าการเรียนรู้เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมด้านใด
. เปลี่ยนพฤติกรรมการคิด และการเข้าใจ                ข. เปลี่ยนพฤติกรรมทางสังคม
. เปลี่ยนพฤติกรรมโดยอัตโนมัติ                             ง. เปลี่ยนพฤติกรรมสังเกตได้
64.คนสูบบุหรี่จัดเป็นผลมาจากการชงักของการพัฒนาการทางเพศขั้นใดของฟรอยด์
. ขั้นปาก                                         ข. ขั้นทวารหนัก
. ขั้นสนใจเพศตรงข้าม                     ง. ขั้นอวัยวะเพศ
65.บทเรียนสำเร็จรูปสร้างขึ้น จากทฤษฎีการเรียนรู้แบบใด
. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบหยั่งเห็น                     ข. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก
. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเงื่อนไขลงมือกระทำ    ง.  ทฤษฎีการเรียนรู้ด้วยการสังเกตตัวแบบ
67. กระบวนการพัฒนาอาชีพ พัฒนาการตามวัยของเด็ก ถามว่า วัยรุ่นตอนต้น อายุ 14-18 ปี อยู่ในขั้นใด
. เริ่มสนใจอาชีพ                                         ข. มีความสนใจอาชีพที่เฉพาะเจาะจง
. พัฒนาความสนใจอาชีพอย่างมั่นคงขึ้น       ง. สร้างความก้าวหน้าอาชีพ
68. กระบวนการพัฒนาอาชีพ พัฒนาการตามวัยของเด็ก ถามว่า  วัยรุ่นตอนกลาง อายุ 22-25 ปี อยู่ในขั้นใด                                   
. เริ่มสนใจอาชีพ                                                 ข. มีความสนใจอาชีพที่เฉพาะเจาะจง
. พัฒนาความสนใจอาชีพอย่างมั่นคงขึ้น              ง. สร้างความก้าวหน้าอาชีพ
69.ระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียน เป็นการทำงานประสานเอื้ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือครูประจำชั้นในการดำเนินงานช่วยเหลือนักเรียน ถามว่า ขั้นตอนสุดท้ายของระบบ คือข้อใด
.คัดกรองนักเรียน                                              ข. รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
. ส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหารุนแรง                          ง. พัฒนานักเรียน  
70.กระบวนการที่ทำให้อินทรีย์เจริญถึงสุดขีดเต็มที่ในระยะหนึ่งของชีวิต พร้อมจะประกอบกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งตามความเหมาะสมกับวัย ตรงกับข้อใด
. วุฒิภาวะ                                      ข. วุฒิภาวะทางสังคม
. วุฒิภาวะทางสติปัญญา                งวุฒิภาวะทางอารมณ์
71.ข้อใดเป็นกฎการเรียนรู้ของธอร์นไดค์
. กฎแห่งความพร้อม                 ข. กฎแห่งการฝึกหัด
. กฎแห่งผล                              ง. ถูกทุกข้อ
72.การเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนส่วนมากเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือการเลียนแบบเป็นการเรียนรู้แบบใด
. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเชาว์ปัญญา                  ข. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบหยั่งเห็น
. ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมเชิงพุทธิปัญญา     ง. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ


ติวสรุปเตรียมสอบบรรจุครูผู้ช่วย สอศ.   
(บุคคลภายนอก+ภายใน)ที่จังหวัดมหาสารคามวันเสาร์ – อาทิตย์ที่  24-25 พฤศจิกายน  2561
กำหนดการอบรมวันแรก (วันเสาร์)
 08.00 – 08.30 น. ลงทะเบียนรับเอกสารแผ่น CD เนื้อหาและแนวข้อสอบ
 08.30-10.30น. ความรอบรู้  ภาค ก (เฉลยวิเคราะห์อธิบายข้อสอบเนื้อหาตามแบบทดสอบ)
สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ปัจจุบัน, Thailand 4.0นโยบายเชิงวิสัยทัศน์ของรัฐบาล
นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
- นโยบายการอาชีวศึกษา, การปฎิรูปการศึกษาการบริหารกระทรวงศึกษาธิการในส่วนภูมิภาค
- ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปิ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12
แผนและขั้นตอนการปฎิรูปประเทศ
-แผนการศึกษาแห่งชาติ
วัฒนธรรมไทย และขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
  10.30-10.45น. พักรับประทานอาหารว่าง
  10.45-12.00น. ความรอบรู้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติราชการ (เฉลย วิเคราะห์ อธิบาย
  ข้อสอบ เนื้อหาตามแบบทดสอบ )
12.00-13.00 พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00-17.00 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 และที่
  แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547และที่
  แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551
- พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.. 2551
-การขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาในส่วนภูมิภาค  (กศจ. , กศภ.)
กฎหมาย กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ สอศ.
- มาตรฐานการอาชีวศึกษา ของ สอศ.
  กำหนดการอบรมวันที่สอง ภาค ข ( วันอาทิตย์ )
  08.30-10.30น. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติของวิชาชีพครู
  (เฉลย วิเคราะห์ อธิบายข้อสอบ เนื้อหาตามแบบทดสอบ)
 -วินัยและการรักษาวินัย
 -คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
 -มาตรฐานด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
 -มาตรฐานด้านการปฎิบัติงาน
 -มาตรฐานด้านการปฎิบัติตน
 10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
 10.45-12.00 น. ความรู้ความความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติวิชาชีพ ( ต่อ )
 12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหาร
 13.00-14.30 น. ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา
-หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร
-หลักการสอนและการจัดการเรียนรู้
-จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว
-การพัฒนาผู้เรียน
-การบริหารจัดการชั้นเรียน
-การวิจัยทางการศึกษา
-สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา
-การวัดและประเมินผลการศึกษา
 14.30-14.45น. พักรับประทานอาหารว่าง
 14.45-17.00น. ความสามารถทั่วไป (เฉลย  วิเคราะห์ อธิบายข้อสอบ เนื้อหาตามแบบ  ทดสอบ)
ความสามารถทางด้านตัวเลข คิดเลข สรุป  เหตุผลเกี่ยวกับตัวเลข
ความสามารถด้านภาษาไทย ความเข้าใจ จับใจความ สรุปความ ตีความขยาย
  ความ เรียงข้อความ สะกดคำ แต่งประโยคและคำ ศัพท์
ความสามารถด้านเหตุผล คิดสรุปหาเหตุผล อุปมาอุปไมย
หมายเหตุ กำหนดการการอบรมและสถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
สถานที่ :  โรงแรมโอเอซิสรีสอร์ต บ้านใคร่นุ่น ท่าขอนยาง จังหวัดมหาสารคาม (ตรงข้ามสะพานทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม) 
 วิทยากร โดย ทีมงานวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิของ สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด มหาสารคาม
         วิทยากร : ดร. ภักดี รัตนมุขย์  ผู้แต่งหนังสือ
              -หนังสือเตรียมสอบความรอบรู้ของ สอศ.
              -หนังสือเตรียมสอบความรอบรู้ของ สพฐ.
              -หนังสือเตรียมสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติวิชาชีพครู                                  
              -หนังสือเตรียมสอบความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา  หัวข้อ
              -หนังสือเตรียมสอบกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเล่ม 
              -หนังสือเตรียมสอบกรมส่งเสริมการกครองส่วนท้องถิ่น เล่ม  2

           -หนังสือ Thailand 4.0 ตอบโจทย์ประเทศไทย?“มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน  ”ก้าวข้ามกับดักรายไดปานกลาง 3.0  










                                           
วิธีการอบรม :

วิเคราะห์ ( เจาะลึก ) ข้อสอบ/พร้อมหลักการ เทคนิคในการเลือกคำตอบ
อธิบายเนื้อหาและสรุปสาระสำคัญของข้อสอบในเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
วิธีนำเสนอ ( Presentation) โดยการบรรยายประกอบการเน้นความเชื่อมโยงของเนื้อหา
@ค่าใช้จ่าย
    -ค่าลงทะเบียน ท่านละ 1,500 บาท ( หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน )
    -เป็นค่าสื่อเอกสารฯ ดังนี้
         1. เอกสารและแผ่นCDไฟล์เนื้อหาและแนวข้อสอบประกอบการอบรมฯ พร้อมซองใส่ จำนวน ชุด
         2. อาหารเบรกและอาหารกลางวัน ( 2 วัน )
@การชำระค่าลงทะเบียน
@การสำรองที่นั่ง (สำรองที่นั่งล่วงหน้า วัน  500 บาท ที่เหลือจ่ายหน้างาน)

@  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…..สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด : โทร. 043-721822,084-2616667,062-6109997,email:dr.pukdee@hotmail.com 








   







































1 ความคิดเห็น:

  1. According to Stanford Medical, It's in fact the one and ONLY reason women in this country get to live 10 years more and weigh 42 lbs lighter than we do.

    (And really, it is not related to genetics or some secret diet and absolutely EVERYTHING around "how" they eat.)

    BTW, I said "HOW", and not "what"...

    Tap on this link to determine if this easy questionnaire can help you release your true weight loss possibility

    ตอบลบ