#แบ่งปันแนวข้อสอบบรรจุราชการ แนวข้อสอบครูผู้ช่วยสอศ.บุคคลภายนอก+ภายในวิชาการศึกษา(งานวิจัยการศึกษา)ชุดที่5

#แบ่งปันแนวข้อสอบบรรจุราชการ แนวข้อสอบครูผู้ช่วยสอศ.บุคคลภายนอก+ภายในวิชาการศึกษา(งานวิจัยการศึกษา)ชุดที่ 5
1.ความหมายของการวิจัย( Research )ข้อใดถูกต้องที่สุด

ก.การหาความจริงโดยการสำรวจความคิดเห็น    
ข.การหาความจริงโดยการสืบค้นข้อมูล

ค.การหาความจริงโดยวิธีการที่น่าเชื่อถือได้         
ง.การหาความจริงโดยวิธีการสืบสวน

2.จอห์นดิวอี้ผู้คิดค้นขั้นตอนการคิดโดยใช้กระบวนการคิดกลับไปกลับมาหรือคิดอย่างใคร่ครวญรอบคอบกระบวนการคิดแบบนี้เรียกว่าวิธีการอะไร
ก.วิธีการอนุมาน                ข.วิธีการอุปมาน
ค.วิธีการทางวิทยาศาสตร์   ง. วิธีการแบบลองถูกลองผิด

3.ขั้นตอนการคิดด้วยวิธีวิทยาศาสตร์เริ่มต้นด้วยปัญหาก่อนแล้วจึงตั้งสมมุติฐานเพื่อที่จะเดาคำตอบของปัญหาหรือเป็นการตั้งสมมุติฐานขึ้นขั้นตอนในการตั้งสมมุติฐานเป็นวิธีการวิจัยแบบใด

ก.วิธีการอนุมาน                ข.วิธีการอุปมาน

ค.วิธีการทางวิทยาศาสตร์   ง. วิธีการแบบลองถูกลองผิด

4.ขั้นตอนการคิดด้วยวิธีวิทยาศาสตร์มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทดสอบสมมุติฐานแล้วสรุปผลออกมา ขั้นตอนการเก็บข้อมูลและสรุปผลเป็นวิธีการวิจัยแบบใด

ก.วิธีการอนุมาน                ข.วิธีการอุปมาน

ค.วิธีการทางวิทยาศาสตร์   ง. วิธีการแบบลองถูกลองผิด

5.การวิจัยทางการศึกษา หมายถึงข้อใด

ก.กระบวนการเสาะแสวงหาความรู้ใหม่ๆเพื่อตอบปัญหาการศึกษาอย่างมีระบบ

ข.มีวัตถุประสงค์ที่แน่นอน

ค.อาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์

ง.ถูกทุกข้อ

6.ขั้นตอนของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาทางการศึกษา การกำหนดข้อมูลที่ได้มาจัดระเบียบ จัดหมวดหมู่เพื่อหาคำตอบของคำถามหรือเพื่อตรวจสอบว่าสมมุติฐานที่ตั้งขึ้นถูกต้องหรือไม่โดยใช้วิธีการทางสถิติอยู่ในขั้นตอนใดของวิธีการทางวิทยาศาสตร์

ก.ขั้นตั้งปัญหา                         ข.ขั้นตั้งสมมุติฐาน

ค.ขั้นการเก็บรวบรวมข้อมูล       ง.ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล

7.เหตุผลของการทำการวิจัยทางการศึกษาตรงกับข้อใด

ก.เพื่อปรับปรุงคุณภาพทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข.เพื่อค้นคว้าเทคนิควิธีสอนใหม่ๆการพัฒนาหลักสูตรการสร้างสื่อ นวัตกรรมการสอนต่างๆ

ค.เพื่อปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอน

ง.ถูกทุกข้อ

8.การศึกษาแนวโน้มปริมาณนักศึกษาที่มาใช้บริการการศึกษาผู้ใหญ่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเป็นลักษณะการวิจัยแบบใด

ก.การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์          ข.การวิจัยเชิงสำรวจ

ค.การวิจัยเชิงทดลอง                   ง. การวิจัยกึ่งทดลอง

9.การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์ระหว่างกลุ่มที่สอนโดยวิธีค้นพบกับกลุ่มที่สอนแบบบรรยายเป็นลักษณะการวิจัยแบบใด

ก.การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์          ข.การวิจัยเชิงสำรวจ

ค.การวิจัยเชิงทดลอง                   ง. การวิจัยกึ่งทดลอง

10.ความคิดเห็นของครู-อาจารย์ที่มีต่อการสำรวจความนิยมของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานของรัฐบาลเป็นลักษณะการวิจัยแบบใด

ก.การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์          ข.การวิจัยเชิงสำรวจ

ค.การวิจัยเชิงทดลอง                   ง. การวิจัยกึ่งทดลอง

11.การศึกษาเปรียบเทียบการเป็นมะเร็งที่ปอดของคนที่สูบบุหรี่กับคนที่ไม่สูบบุหรี่เป็นลักษณะการวิจัยแบบใด

ก.การวิจัยเชิงทดลอง            ข.การิจัยเชิงเหตุผลเปรียบเทียบ

ค.วิจัยเชิงสหสัมพันธ์             ง.การศึกษาเฉพาะกรณี

12.การศึกษาองค์ประกอบบางประการที่สามารถใช้ในการพยากรณ์ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนคณิตศาสตร์เป็นการวิจัยแบบใด

ก.การวิจัยเชิงทดลอง            ข.การวิจัยเชิงเหตุผลเปรียบเทียบ

ค.การวิจัยเชิงสหสัมพันธ์       ง.การศึกษาเฉพาะกรณี

13.การศึกษาสาเหตุที่นักเรียนบางคนมีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่สนใจต่อการเรียน

ก.การวิจัยเชิงทดลอง            ข.การวิจัยเชิงเหตุผลเปรียบเทียบ

ค.วิจัยเชิงสหสัมพันธ์             ง.การศึกษาเฉพาะกรณี

14.กลุ่มที่สอนโดยวิธีการใช้สื่อการสอนกับกลุ่มที่สอนโดยใช้วิธีการบรรยายโดยใช้ครูผู้สอนคนละคนถามว่าข้อใดเป็นตัวแปรเกิน

ก.วิธีสอน                       ข.นักเรียน

ค.สื่อการสอน                 ง.ครูผู้สอน

15.สมมุติฐานตามข้อใดเป็นสมมุติฐานแบบมีทิศทาง

ก.การสอนซ่อมเสริมโดยการใช้สื่อประสมจะทำให้ผลสัมฤทธ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์กายภาพของนร.ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4สูงกว่าการซ่อมเสริมโดยวิธีปกติ

ข.เพศหญิงมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่แตกต่างกว่าเพศชาย

ค.ความรับผิดชอบของนักเรียนมัธยมศึกษาแตกต่างกว่านักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย

ง.นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษาไม่แตกต่าง

16.สมมุติฐานตามข้อใดเป็นสมมุติฐานแบบไม่มีทิศทาง

ก.อัตราการว่างงานของนักศึกษารายอาชีพน้อยกว่าสายสังคมศาสตร์

ข.มะนาวทาบกิ่งให้ผลผลิตสูงกว่ามะนาวกิ่งตอน

ค.เพศหญิงมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่แตกต่างกว่าเพศชาย

ง.คะแนนการสอบเอนทรานซ์กับเวลาที่ใช้ในการดูหนังสือมีความสัมพันธ์เชิงบวก

17.วิธีการสอนแบบใหม่กับแบบปกติทำให้มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ถามว่าข้อใดคือตัวแปรเกิน

ก.การใช้เวลาการรับรู้นานเกินไป  

ข.การใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน

ค.การเลือกนักเรียนมีความสามารถสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่งตั้งแต่ต้น

ง.การเรียนเพิ่มเติมนอกเวลาเรียน

18.การเปรียบเทียบวิธีการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้สมาชิกที่ทำการทดลอง 2 กลุ่มถามว่าตัวแปรเกินตรงกับข้อใดมากที่สุด

ก.การใช้เวลาการรับรู้นานเกินไป  

ข.การใช้ข้อสอบชุดเดียวกัน

ค.การเลือกนักเรียนมีความสามารถสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่งตั้งแต่ต้น

ง.การเรียนเพิ่มเติมนอกเวลาเรียน

19.กระบวนการวิจัย เช่นการกำหนดปัญหาการวิจัย การศึกษาเอกสารและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง การออกแบบการวิจัยและการเขียนโครงการวิจัยอยู่ในขั้นตอนใดของกระบวนการวิจัย

ก.ขั้นตอนการวางแผนการวิจัย          ข.ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย

ค.ขั้นการสรุปผลการวิจัย                  ง.ขั้นการเสนอผลการวิจัย

20.ข้อใดมิใช่ขั้นตอนของหลักการออกแบบการวิจัย

ก.การ การวัด             

ข.การออกแบบการสุ่มตัวอย่าง

ค.การออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูล

ง.การสรุปผลการวิจัย

21.ข้อใดเป็นการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบความน่าจะเป็น

ก. การสุ่มแบบมีระบบ        ข.การสุ่มแบบแบ่งเป็นชั้นภูมิ

ค.การสุ่มแบบง่าย              ง.การสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง

22.ข้อใดเป็นการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบความไม่น่าจะเป็น

ก. การสุ่มแบบบังเอิญ        ข.การสุ่มแบบโควตา

ค.การสุ่มแบบง่าย              ง.การสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง

23.ผู้วิจัยต้องการศึกษาปัญหาอาชญากร ผู้วิจัยจึงกำหนดกลุ่มตัวอย่างในท้องที่ที่มีปัญหาอาชญากรรมสูงเป็นการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบใด

ก.การสุ่มแบบง่าย                 ข.การสุ่มแบบบังเอิญ

ค.การสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง  ง.การสุ่มแบบโควตา

24.การสุ่มกลุ่มตัวอย่างอาจจะใช้โดยการจับสลากหรือตารางเลขสุ่มเป็นการสุ่มแบบใด

ก.การสุ่มแบบง่าย                 ข.การสุ่มแบบบังเอิญ

ค.การสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง  ง.การสุ่มแบบโควตา

25.แบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถทั่วไปของผู้เข้าสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยสอศ.เป็นแบบทดสอบประเภทใด

ก.แบบทดสอบเชาว์ปัญญา   

ข.แบบทดสอบความถนัดทางการเรียน

ค.แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ง.แบบสอบถาม

26.แบบทดสอบที่ใช้วัดความสามารถเฉพาะในการสอบภาค ข ได้แก่แบบทดสอบประเภทใด

ก.แบบทดสอบเชาว์ปัญญา   

ข.แบบทดสอบความถนัดทางการเรียน

ค.แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ง.แบบสอบถาม

27.แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลใช้ในการวิจัยแบบใด

ก.การวิจัยเชิงสำรวจ       ข.การวิจัยเชิงทดลอง

ค.กาวิจัยเชิงปฎิเสธ        ง.ถูกทุกข้อ

28.แบบสอบถามแบบปลายปิดตรงกับข้อใด

ก.การเรียนวิชาวิจัยการศึกษาให้ประโยชน์อะไรบ้าง

ข.วิธีการสอนในวิชาวิจัยการศึกษายังต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่

ค.โรงเรียนที่ที่ท่านสอนนั้นเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียน 500-1,500 คน

ง.เนื้อหาวิชาวิจัยการศึกษาสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของวิชาหรือไม่

29.เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลการวิจัยในการสอนสาขาวิชาชีพ ตรงกับข้อใด

ก.แบบสังเกต                 ข.แบบปฎิบัติงาน

ค.แบบสัมภาษณ์           ง.ถูกทุกข้อ

30.การเลือกใช้สถิติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล มีความสำคัญตามข้อใด

ก.ใช้วิเคราะห์ข้อมูล       

ข.ใช้ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ   

ค.ใช้กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง

ง.ใช้กำหนดขนาดกลุ่มประชากร

31.สถิติแบ่งออกเป็นกี่ประเภท

ก. 1 ประเภท               ข. 2 ประเภท

ค. 3 ประเภท               ง. 4 ประเภท

32.การแบ่งกลุ่มข้าราชการครูโดยใช้วิทยฐานะชำนาญการและครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษใช้มาตรวัดระดับใด

ก.มาตราเรียงอันดับ        

ข.มาตราระดับช่วงหรืออันตรภาค 

ค.มาตราอัตราส่วน

ง.มาตรานามบัญญัติ

33.การประกวดนางงามผลการตัดสินปรากฏว่านางงามลำดับที่ 1สวยกว่านางงามอันดับ 2พอสมควรเป็นระดับการวัดข้อมูลตามข้อใด

ก.มาตราเรียงอันดับ        

ข.มาตราระดับช่วงหรืออันตรภาค 

ค.มาตราอัตราส่วน

ง.มาตรานามบัญญัติ

34.นักเรียนสอบได้ลำดับที่ 1ได้ 800 คะแนน ส่วนนักเรียนสอบได้ลำดับที่2ได้ 70 คะแนน นักเรียนสอบได้ลำดับที่ 3 60 คะแนน เป็นระดับการวัดข้อใด

ก.มาตราเรียงอันดับ        

ข.มาตราระดับช่วงหรืออันตรภาค 

ค.มาตราอัตราส่วน

ง.มาตรานามบัญญัติ

35.แดงน้ำหนัก 50 กิโลกรัม แสดงว่ามีน้ำหนักเป็น 50 เท่าของ 1 กิโลกรัมตรงกับระดับการวัดตามข้อใด

ก.มาตราเรียงอันดับ        

ข.มาตราระดับช่วงหรืออันตรภาค 

ค.มาตราอัตราส่วน

ง.มาตรานามบัญญัติ

36.สถิติที่ใช้ทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยสองกลุ่มเป็นสถิติที่ตรงตามข้อใด

ก.t-test, Z-test            

ข.สหสัมพันธ์แบบเปียร์สัน

ค.สหสัมพันธ์แบบ Product-moment

ง.ร้อยละ, การวัดแนวโน้มสู่ส่วนกลาง ,การวัดการกระจาย

37.สถิติที่ใช้ทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยสองกลุ่มเป็นสถิติที่ใช้ทดสอบตามข้อใด

ก.t-test, Z-test            

ข.สหสัมพันธ์แบบเปียร์สัน

ค.สหสัมพันธ์แบบ Product-moment

ง.ร้อยละ, การวัดแนวโน้มสู่ส่วนกลาง ,การวัดการกระจาย

38.สถิติที่อธิบายคุณลักษณะของข้อมูล เช่น เพศ การศึกษา ตรงตามข้อใด

ก.t-test, Z-test            

ข.สหสัมพันธ์แบบเปียร์สัน

ค.สหสัมพันธ์แบบ Product-moment

ง.ร้อยละ, การวัดแนวโน้มสู่ส่วนกลาง ,การวัดการกระจาย

39.สถิติที่ใช้ทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยสองกลุ่มตรงกับข้อใด

ก.t-test, Z-test            

ข.สหสัมพันธ์แบบเปียร์สัน

ค.สหสัมพันธ์แบบ Product-moment

ง.ร้อยละ, การวัดแนวโน้มสู่ส่วนกลาง ,การวัดการกระจาย

40.การวิจัยเชิงปฎิบัติการในชั้นเรียนเป็นการวิจัยแบบใด

ก.การวิจัยแบบร่วมมือ          ข.การวิจัยแผ่นเดียว

ค.การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์  ง.การวิจัยเชิงสำรวจ

41.วงจรการทำงานการวิจัยเชิงปฎิบัติการอย่างต่อเนื่องและสะท้อนกลับเป็นการทำงานของตนเอง โดยมีขั้นตอนหลักคือการทำงานตามวงจรข้อใด

ก.PDCA                    ข.PAOR

ค.PDLC                    ง.PLC

42.การวิจัยเชิงปฎิบัติการในชั้นเรียน ขั้นตอนที่ 3 หมายถึงข้อใด

ก.การวางแผนหลังจากที่วิเคราะห์และกำหนดประเด็นปัญหาที่ต้องการแก้ไข

ข.การสะท้อนผลหลังจากการปฎิบัติงานให้ผู้มีส่วนร่วมได้วิพากษ์วิจารณ์

ค.การปฎิบัติตามที่กำหนด

ง.การสังเกตผลที่เกิดขึ้นจากการปฎิบัติงาน

43.วัตถุประสงค์ของการวิจัยการปฎิบัติงานในชั้นเรียน ตรงตามข้อใด

ก.พัฒนาการเรียนการสอน       

ข.การค้นหาแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

ค.การพัฒนาวิชาชีพ

ง.ถูกทุกข้อ

44.ลักษณะของการวิจัยในชั้นเรียนตรงกับข้อใด

ก.การสะท้อนกลับผลเกี่ยวกับการปฎิบัติงานของตนเองและผลที่เกิดขึ้น

ข.การเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน/เพื่อนร่วมงานมีส่วนในการวิพากษ์วิจารณ์การปฎิบัติงานและผลที่ได้รับ

ค.กระบวนการที่มีการดำเนินงานเป็นวงจรต่อเนื่องและทำเป็นส่วนหนึ่งของการปฎิบัติงาน

ง.ถูกทุกข้อ

45.จุดเริ่มต้นของการวิจัยเชิงปฎิบัติการในชั้นเรียนประกอบด้วยข้อใด

ก.การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียน

ข.กำหนดคำถามวิจัยที่ต้องการหาคำตอบ

ค.การวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วหาแนวทางแก้ไข

ง.ถูกทุกข้อ

46.ข้อใดเป็นวิธีการวิจัยการปฎิบัติงานในชั้นเรียน

ก.มีแบบแผนการวิจัย              ข.ไม่เน้นแบบแผนการวิจัย    

ค.ไม่เน้นกรอบแนวคิดการวิจัย ง. เน้นกรอบแนวคิดการวิจัย

47.ข้อใดเป็นกลุ่มเป้าหมายการวิจัยเชิงปฎิบัติการที่ถูกที่สุด

ก.นักเรียนในห้องเรียน            ข.กลุ่มนักเรียนที่เป็นตัวแทนประชากร

ค.นักเรียนเป็นรายคน             ง.นักเรียนเป็นรายห้อง

48.ข้อใดเป็นประเด็นการวิจัยที่เหมาะสม

ก.นักเรียนที่ขาดโรงเรียนมีภูมิหลังทางครอบครัวอย่างไร

ข.จำนวนนักเรียนที่มีครอบครัวแตกแยกมีจำนวนเท่าใด

ค.ฉันต้องการพัฒนาคุณภาของทักษะการเขียนภาษาอังกฤษจะสามารถทำได้อย่างไร

ง.มีสาเหตุอะไรที่นักเรียนมาโรงเรียนสาย

49.ข้อใดมิใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นในการวิจัยเชิงปฎิบัติการในห้องเรียน

ก.นักเรียนขาดระเบียบวินัยในการเข้าแถว 

ข.นักเรียนไม่สามารถควบคุมวินัยในตนเองทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทในห้องเรียน

ค.การไม่มีระเบียบวินัยในชั้นเรียนทำให้ครูเสียเวลาในการสอน

ง.นักเรียนมีนิสัยก้าวร้าวชอบก่อกวนเพื่อนร่วมชั้นเรียน

50.ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับใครบ้าง

ก.ครูผู้สอน            ข.นักเรียนรายเดียว

ค.นักเรียนรายห้อง ง.นักเรียนเกือบทั้งห้อง

51.ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อใคร

ก.ส่งผลกระทบต่อครู            

ข.ส่งผลกระทบต่อการสอน

ค.ส่งผลกระทบต่อนักเรียนทำให้เสียเวลาเรียนของเด็กคนอื่นมาก

ง.ถูกทุกข้อ

52.กระบวนการแสวงหาความรู้อันเป็นความจริงที่น่าเชื่อถือได้ และมุ่งนำผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน ได้แก่รูปแบบการวิจัยตามข้อใด

ก. การวิจัยเชิงทดลอง                              ข. การวิจัยเชิงพยากรณ์

ค. กาวิจัยในชั้นเรียน                                ง. การวิจัยเชิงวินิจฉัย

                      

ติวสรุปเตรียมสอบบรรจุครูผู้ช่วย สอศ.
(บุคคลภายนอก+ภายใน)ที่จังหวัดมหาสารคามวันเสาร์ – อาทิตย์ที่  24-25 พฤศจิกายน  2561

กำหนดการอบรมวันแรก (วันเสาร์)

 08.00 – 08.30 น. ลงทะเบียนรับเอกสารแผ่น CD เนื้อหาและแนวข้อสอบ

 08.30-10.30น. ความรอบรู้  ภาค ก (เฉลยวิเคราะห์อธิบายข้อสอบเนื้อหาตามแบบทดสอบ)

- สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ปัจจุบัน, Thailand 4.0นโยบายเชิงวิสัยทัศน์ของรัฐบาล

- นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

- นโยบายการอาชีวศึกษา, การปฎิรูปการศึกษาการบริหารกระทรวงศึกษาธิการในส่วนภูมิภาค

- ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปิ , แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12

- แผนและขั้นตอนการปฎิรูปประเทศ

-แผนการศึกษาแห่งชาติ

- วัฒนธรรมไทย และขนบธรรมเนียมประเพณีไทย

  10.30-10.45น. พักรับประทานอาหารว่าง

  10.45-12.00น. ความรอบรู้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติราชการ (เฉลย วิเคราะห์ อธิบาย

  ข้อสอบ เนื้อหาตามแบบทดสอบ )

12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน

13.00-17.00 น. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542และที่แก้ไขเพิ่มเติม

- พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 และที่

  แก้ไขเพิ่มเติม

- พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546

- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547และที่

  แก้ไขเพิ่มเติม

- พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

- พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551

- พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551

-การขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาในส่วนภูมิภาค  (กศจ. , กศภ.)

- กฎหมาย กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ สอศ.

- มาตรฐานการอาชีวศึกษา ของ สอศ.

  กำหนดการอบรมวันที่สอง ภาค ข ( วันอาทิตย์ )

  08.30-10.30น. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติของวิชาชีพครู

  (เฉลย วิเคราะห์ อธิบายข้อสอบ เนื้อหาตามแบบทดสอบ)

 -วินัยและการรักษาวินัย

 -คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม

 -มาตรฐานด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ

 -มาตรฐานด้านการปฎิบัติงาน

 -มาตรฐานด้านการปฎิบัติตน

 10.30-10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง

 10.45-12.00 น. ความรู้ความความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติวิชาชีพ ( ต่อ )

 12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหาร

 13.00-14.30 น. ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา

-หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร

-หลักการสอนและการจัดการเรียนรู้

-จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว

-การพัฒนาผู้เรียน

-การบริหารจัดการชั้นเรียน

-การวิจัยทางการศึกษา

-สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา

-การวัดและประเมินผลการศึกษา

 14.30-14.45น. พักรับประทานอาหารว่าง

 14.45-17.00น. ความสามารถทั่วไป (เฉลย  วิเคราะห์ อธิบายข้อสอบ เนื้อหาตามแบบ  ทดสอบ)

- ความสามารถทางด้านตัวเลข คิดเลข สรุป  เหตุผลเกี่ยวกับตัวเลข

- ความสามารถด้านภาษาไทย ความเข้าใจ จับใจความ สรุปความ ตีความขยาย

  ความ เรียงข้อความ สะกดคำ แต่งประโยคและคำ ศัพท์

- ความสามารถด้านเหตุผล คิดสรุปหาเหตุผล อุปมาอุปไมย

หมายเหตุ กำหนดการการอบรมและสถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

สถานที่ :  โรงแรมโอเอซิสรีสอร์ต บ้านใคร่นุ่น ท่าขอนยาง จังหวัดมหาสารคาม (ตรงข้ามสะพานทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม) 

 วิทยากร : โดย ทีมงานวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิของ สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด มหาสารคาม

         วิทยากร : ดร. ภักดี รัตนมุขย์  ผู้แต่งหนังสือ

              -หนังสือเตรียมสอบความรอบรู้ของ สอศ.

              -หนังสือเตรียมสอบความรอบรู้ของ สพฐ.

              -หนังสือเตรียมสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติวิชาชีพครู                                  

              -หนังสือเตรียมสอบความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวิชาการศึกษา  8 หัวข้อ

              -หนังสือเตรียมสอบกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเล่ม 1 

              -หนังสือเตรียมสอบกรมส่งเสริมการกครองส่วนท้องถิ่น เล่ม  2

           -หนังสือ Thailand 4.0 ตอบโจทย์ประเทศไทย?“มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน  ”ก้าวข้ามกับดักรายไดปานกลาง 3.0  

                                         
วิธีการอบรม :

: วิเคราะห์ ( เจาะลึก ) ข้อสอบ/พร้อมหลักการ เทคนิคในการเลือกคำตอบ

: อธิบายเนื้อหาและสรุปสาระสำคัญของข้อสอบในเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

: วิธีนำเสนอ ( Presentation) โดยการบรรยายประกอบการเน้นความเชื่อมโยงของเนื้อหา

@ค่าใช้จ่าย

    -ค่าลงทะเบียน ท่านละ 1,500 บาท ( หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน )

    -เป็นค่าสื่อเอกสารฯ ดังนี้

         1. เอกสารและแผ่นCDไฟล์เนื้อหาและแนวข้อสอบประกอบการอบรมฯ พร้อมซองใส่ จำนวน 1 ชุด

         2. อาหารเบรกและอาหารกลางวัน ( 2 วัน )

@การชำระค่าลงทะเบียน

@การสำรองที่นั่ง (สำรองที่นั่งล่วงหน้า 2 วัน  500 บาท ที่เหลือจ่ายหน้างาน)

@  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…..สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด : โทร. 043-721822,084-2616667,062-6109997,email:dr.pukdee@hotmail.com