วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2563

# สรุปรัฐธรรมนูญกับการปฎิรูปการศึกษา(ฉบับที่ 2) ดูเป็นแนวทางสอบครูผู้ช่วยทุกสังกัดเพื่อตอบให้ตรงประเด็น

 # สรุปรัฐธรรมนูญกับการปฎิรูปการศึกษา    (ฉบับที่ 2)   ดูเป็นแนวทางสอบครูผู้ช่วยทุกสังกัดเพื่อตอบให้ตรงประเด็น

                                                       

ตลอดเวลากว่า     4 ปี     คสช.    เข้ามาจัดการปัญหาการศึกษาโดยมุ่งเน้นปรับปรุงโครงสร้างส่วนบน    (ส่วนหนึ่งในข้อ 5 ของกรอบแนวทางการปฎิรูปการศึกษา  7 วาระ  การปรับโครงสร้างบริหารจัดการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)    โดยใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44        เข้าจัดการระบบการศึกษา อย่างน้อย 19 ฉบับ                                                                                                                                    

1. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ(ฉบับที่4)พ.ศ.2562 ให้ไว้ ณ วันที่ 26เมษายน2562   1.1  มาตรา 32การจัดระเบียบบริหารราชการจำนวน3 องค์กรได้แก่ 1. สภาการศึกษา2.คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3.คณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อให้คำแนะนำแก่ รมว.ศธ.และคณะรัฐมนตรี (คณะกรรมการการอุดมศึกษาถูกแยกออกไปอยูในกระทรวงใหม่)   1.2  มาตรา   32/1        ให้มีกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (แยกออกมาตั้งเป็นกระทรวงใหม่ คณะกรรมการการอุดมศึกษาหายไป  ในพรบ.ระเบียบบริหารกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 จาก  4 องค์กร  1.3 มาตรา  51/1 คำว่า   "อาจารย์ " ในหมวดนี้ ให้หมายความว่า บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐ  และเอกชน            (ข้อนี้หมายความว่าให้ใช้เฉพาะสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ) แต่ไม่รวมถึงบุคลากรซึ่งสังกัดกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่แยกไปเป็นกระทรวงใหม่

2.คำสั่งหน.คสช.ฉบับที่ 7/2558 ข้อ  2  กำหนดให้มีจำนวนคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน  9  คน   รมว.ศธ.   เป็นประธานกรรมการ  และ   เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพภาพครู  และบุคลากรทางการศึกษาเป็นกรรมการ  และเลขานุการ

3.คำสั่ง  หน.คสช.   ฉบับที่    8/2559 เรื่องการบริหารจัดการรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน 2.1ให้โอนบรรดาอำนาจหน้าที่ของ สช.,  สป.ศธ.ในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินงานโรงเรียนในระบบประเภทอาชีวศึกษา    ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของ สอศ.     2.2 บรรดาคำขออนุญาตหรือคำขอใดๆในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานโรงเรียนในระบบประเภทอาชีวศึกษา     ที่ได้ยื่นไว้ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับให้เป็นอันใช้ได้และให้    สช.,  สป.ศธ. ส่งมอบให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาต่อไป

4.คำสั่งหน.คสช. ที่ 28/2559 เรื่องให้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน  15  ปีโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย   3.1 อาศัยมาตรา 44   ของรธน.(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.25573.2 การศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล)  (ถ้ามี)  ระดับประถมศึกษา  จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6  หรือระดับ (ปวช.3) หรือเทียบเท่า   และให้หมายความรวมถึงการศึกษาพิเศษและการศึกษาสงเคราะห์ด้วย3.3 ให้รมว.ศธ. โดยความเห็นชอบของ ค.ร.ม.  กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี     เพื่อเสนอตามกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ได้แก่ (1) ค่าจัดการเรียนการสอน (2) ค่าหนังสือเรียน  (3) ค่าอุปกรณ์การเรียน(4) ค่าเครื่องแบบนักเรียน(5) ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (6) ค่าใช้จ่ายอื่นตามที่ ค.ร.ม.เห็นชอบ

5.คำสั่ง  หน.คสช.ที่ 30 /2559  เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษา  5.1  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามหมวด  7 แห่งพรบ.คุ้มครองเด็กพ.ศ.2546มีอำนาจกักตัวนักเรียนและนักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือเตรียมการเพื่อก่อเหตุดังกล่าวเป็นการชั่วคราว ไม่เกิน 6  ชั่วโมง    เพื่อนำส่งพนักงานตำรวจผู้บริหารโรงเรียน หรือสถานศึกษา บิดามารดาหรือผู้ปกครองแล้วแต่กรณี 5.2 .ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะแจ้งให้บิดามารดาหรือผู้ปกครองเข้ามารับทราบการกระทำของเด็ก   และเยาวชนที่เป็นนักเรียนนักศึกษาดังกล่าว  เพื่อให้คำแนะนำตักเตือนทำทัณฑ์บนหรือวางข้อกำหนดเพื่อป้องกันมิให้กระทำความผิดอีกหรืออาจวางประกันไว้เป็นจำนวนเงินตามสมควรแก่ฐานานุรูป     แต่จะเรียกเงินประกันไว้ได้ไม่เกิน ระยะเวลา 2 ปีหากเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษา ได้กระทำความผิดดังกล่าวซ้ำอีก   ให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุนคุ้มครองเด็กตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก 5.3 ผู้ใดกระทำอันเป็นการยุยง   ส่งเสริมช่วยเหลือ  หรือสนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษาฝ่าฝืนบทบัญญัติตามมาตรา   64   แห่งพรบ.คุ้มครองเด็กพ.ศ.2546   ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน    หรือ ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   หากการกระทำตามข้อ 5.4เป็นเหตุให้นักเรียนนักศึกษาไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายผู้อื่นผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน  6  เดือนหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและหากเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เพราะการทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายนั้น  ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

6. คำสั่ง หน.คสช. ที่ 16/2560    เรื่องการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา 6.1   ให้ก.ค.ศ.ตามกฎหมาย    ว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประกอบด้วย  ก.ค.ศ. จำนวน 14  คนรมว.ศธ.เป็นประธานกรรมการเลขาธิการ ก.ค.ศ.เป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง 6.2 กรรมการโดยตำแหน่งมี จำนวน 9  คน    6.3 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมี จำนวน  3 คน ซึ่งรมว.ศธ. แต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงในด้าน  การบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านการศึกษา และด้านกฎหมายด้านละ 1คน    (ในกรณีที่เป็นข้าราชการพลเรือนผู้นั้นต้องดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงหรือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ)  6.4ให้ ก.ค.ศ.  มีอำนาจแต่งตั้งอ.ก.ค.ศ.วิสามัญเพื่อทำการใดๆแทน ก.ค.ศ.ดังต่อไปนี้  (1) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และร้องทุกข์   2)อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ      (3)อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา6.5ให้ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญแต่ละคณะมี จำนวนไม่เกิน  15 คน 6.6  ให้แก้ไขคำว่า"ขั้นเงินเดือน" ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นคำว่า"เงินเดือน"ทุกแห่ง 6.7 ให้ก.ค.ศ. เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน   เพื่อบรรจุ    และแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา   ในกรณีที่ก.ค.ศ.เห็นสมควรจะมอบหมายให้กศจ.  อ.ก.ค.ศ.    ซึ่งก.ค.ศ.ตั้งตามมาตรา  25แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ส่วนราชการหรือหน่วยงานทางการศึกษาดำเนินการก็ได้

7.คำสั่ง  หน.คสช.ฉบับที่  17/ 2560   ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาออกมา  เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งฉบับที่7/2558      ให้ยกเลิกความในข้อ 2      การปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภาคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา                ให้คณะกรรมการคุรุสภาตามกฎหมาย    ประกอบด้วยคณะกรรมการจำนวน  12  คน   มีรมว.ศธ.เป็นประธานกรรมการและ เลขาธิการคุรสภา    เป็นกรรมการและเลขานุการ      (คณะกรรมการคุรุสภาเดิมี   39   คนโดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ)                                                                            

8.คำสั่ง  หน.คสช.ที่  19/2560 เรื่องการปฎิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ 8.1ให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฎิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคประกอบด้วยคณะกรรมการทั้งหมด     จำนวน     9     คน    รมว.ศธ.   เป็นประธานกรรมการปลัดกระทรวงศธ.เป็นกรรมการและเลขานุการ 8.2 อำนาจหน้าที่  *กำหนดทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงศธ.ในระดับภูมิภาคและจังหวัด *วางแผนเกี่ยวกับการบริหารบุคคลของกระทรวงศธ. ในระดับภูมิภาค และจังหวัด   *แต่งตั้ง โอน หรือย้ายผู้บริหารสถานศึกษา  ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา  หรือผู้ปฎิบัติงานในตำแหน่งต่างๆในหน่วยงานของกระทรวงศธ.ในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด ทั้งนี้ตามประเภทหรือระดับตำแหน่งที่ รมว.ศธ.กำหนด 8.3 สั่งให้ผู้บริหารสถานศึกษา     ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา      หรือผู้ปฎิบัติงานในตำแหน่งต่างๆในหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาค    หรือ   จังหวัดหยุดการปฎิบัติหน้าที่หรือให้พ้นจากตำแหน่ง8.4 ให้มีสำนักงานศึกษาธิการภาค  จำนวน  18  ภาค สังกัด  สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามบัญชีที่รมว.ศธ.ประกาศกำหนด 8.5 ในแต่ละจังหวัดให้มีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด   เรียกโดยย่อว่า   "กศจ."  มีจำนวน 18  คน มี ผู้ว่าราชการจังหวัด  หรือ   รองผู้ว่าราชการที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมกรรมการ ศึกษาธิการภาคเป็นรองประธานกรรมการ    ศึกษาธิการจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ  8.6 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน  ไม่เกิน 6  คน  ซึ่งรมว.ศธ.แต่งตั้ง  โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการขับเคลื่อนฯโดยอย่างน้อยต้องมี   ผู้แทนองค์กรภาคเอกชน   ผู้แทนองค์กรวิชาชีพ  และ    ผู้แทนภาคประชาชน ด้านละ 1 คน 8.7 ให้กศจ.มีอำนาจในเขตจังหวัด  ดังต่อไปนี้   * อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ  กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารกระทรวงศึกษาธิการ   และกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา   กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา       และ อ.ก.ค.ศ.  เขตพื้นที่การศึกษา    *ให้กศจ.เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ    เพื่อแต่งตั้งอนุกรรมการศึกษาจังหวัด    เรียกโดยย่อว่า "อกศจ. " เพื่อช่วยเหลือกรองงานให้แก่ กศจ. เกี่ยวกับการบรรจุ แต่งตั้ง การโยกย้าย   การดำเนินการทางวินัย    การกำหนดวิทยฐานะ    หรือการกำหนดสิทธิประโยชน์ต่างๆของข้าราชการครู  และบุคลากรทางการศึกษา*ให้อกศจ.ประกอบด้วย (1) กรรมการในกศจ.จำนวน 1 คน เป็นประธานอนุกรรมการ (2) กรรมการใน กศจ. จำนวน 2 คน เป็นอนุกรรมการ   (3) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือผู้อำนวยการสถานศึกษาในจังหวัด    จำนวน 2 คนเป็นอนุกรรมการ  (4) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมิได้เป็นกรรมการในกศจ. จำนวนไม่เกิน 3 คน  เป็นอนุกรรมการ (5)ศึกษาธิการจังหวัดเป็นอนุกรรมการและเลขานุการ

9. คำสั่ง หน.คสช.ฉบับที่ 11/2561      รื่องการแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา   ให้มีคณะกรรมการ จำนวน 17 คน และให้มีประธานกรรมการ   ซึ่งรมว.ศธ.แต่งตั้งจากบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ  และประสบการณ์สูงเกี่ยวกับวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา 9.1กรรมการโดยตำแหน่งจำนวน 5 คน9.2กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 4  คน ซึ่งคณะกรรมการคุรุสภาแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงด้าน การศึกษา การบริหาร  และกฎหมาย 9.3กรรมการจากคณาจารย์ในคณะคุรุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์  หรือการศึกษา   ซึ่งคณะกรรมการคุรุสภาแต่งตั้ง จำนวน  2  คน 9.4 กรรมการจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาจำนวน4 คน ซึ่งคณะกรรมการคุรุสภาแต่งตั้งมาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครู        ผู้บริหารสถานศึกษา   ผู้บริหารการศึกษาและศึกษานิเทศก์ซึ่งดำรงวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพละ 1 คน และให้   เลขาธิการคุรุสภาเป็นกรรมการและเลขานุการ

10. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี    เรื่องแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการ  ในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  10.1    คณะรัฐมนตรีไเ้มีมติเมื่อวันที่     25  กรกฎาคม2560อนุมัติให้แต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมกาการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวม    17 คน/รูป    ตามที่รมว.ศธ.เสนอ     โดยปัจจุบันมีรองศาสตราจารย์เอกชัย  กี่สุขพันธ์เป็นประธานกรรมการ

ติวสรุปสอบครูผู้ช่วยทุกสังกัดหลักเกณฑ์ใหม่การสอบครูผู้ช่วย ที่สถาบันไดเอ็ด  จังหวัดมหาสารคามรับไม่เกิน 15  คน  วันเสาร์ - อาทิตย์ ที่  15-16   สิงหาคม  2563      สนใจติดต่อสอบถามและสมัครได้ที่สถาบันไดเอ็ดจังหวัดมหาสารคาม  โทร.043-721822,062-6109997,084-2616667 Email:pakdee277@gmail.com  ค่าติวท่านละ  1,200  บาท 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น